tag:blogger.com,1999:blog-76962894275784524292024-03-13T11:36:19.400-07:00อาชีพเสริมอาชีพเสริม รายได้ รายได้พิเศษ รายได้เสริม รายได้เสริมงานฝีมือ รายได้เสริมทำที่บ้าน สิ่งประดิษฐ์ หารายได้เสริม อาชีพงานประดิษฐ์ อาชีพสร้างรายได้ อาชีพเสริม อาชีพแฟรนไชส์ แหล่งรวบรวมข้อมูลอาชีพ การหารายได้ อาชีพพิเศษ อาชีพอิสระ งานอิสระhobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comBlogger11125tag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-77162040678256731812009-12-17T01:34:00.001-08:002009-12-17T01:35:51.551-08:00การทำเทียนหอม<div><font face="arial"><strong>วิธีการทำ เทียนหอม</strong><br />วัสดุ วัตถุดิบหลักที่สำคัญ ได้แก่ พาราฟิน โพลีเอสเตอร์ น้ำหอม ไส้เทียน และสีเคลือบดอก โดยแหล่ง Supplier ที่สำคัญจะอยู่ในประเทศจีนและไต้หวัน </font></div><br /><div><br /><font face="arial"><strong>ขั้นตอนและกระบวนการผลิตเทียนหอม<br /></strong>สำหรับกระบวนการผลิตและขั้นตอนการผลิตสามารถจัดลำดับแผนกของการผลิตได้ดังนี้<br />1.พาราฟิน 1 กก.<br />2.บีแวกซ์ 1 ขีด<br />3.เทียนเหนียว 1 ขีด<br />4.สีเทียน หรือ สีน้ำมันผง<br />5.ใส้เทียน<br />6.หัวน้ำหอมกลิ่นที่ชอบ 15 cc<br />7.พิมพ์รูปต่างๆ<br /><br /><strong>วิธีทำ เทียนหอม<br /></strong>นำพาราฟินใส่ภาชนะตั้งไฟละลายจากนั้นใส่บีแว็กซ์และเทียนลงไป พอละลายเข้ากันใส่สีเทียน หรือสีน้ำมันผงให้สีอ่อนเข้มตามต้องการตักหยอดใส่พิมพ์เมื่อเทียนเริ่มแข็งตัว ใส่ใส้เทียนที่เตรียมไว้<br />วิธีทำใส้เทียนให้แข็ง ทำได้โดยนำฝ้ายดิบสำหรับทำใส้เทียนจุ่มลงในพาราฟิน ที่ต้มละลายแล้ว จากนั้นดึงใส้เทียนให้ตึง พอแห้งจะได้ใส้เทียนเป็นเส้นตรง จากนั้นตัดตามยาวตามต้องการ<br />ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/</font> </div>hobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-27267359766262747092009-12-17T01:32:00.000-08:002009-12-17T01:36:03.765-08:00การทำกรอบรูปเปเปอร์มาเช่<div><font face="arial"><strong>กรอบรูป เปเปอร์มาเช่</strong><br />รายการนี้คุณขอมาเช่นเดียวกันครับ ต้องการกรอบรูปแบบขอบนูน ผมมีอยู่สองสามแบบ อันนี้เป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ ใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียว มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้ามีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ อาจได้กรอบรูปที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆหรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดครับ เรามาดูกันในรายละเอียดครับ<br /><br /><strong>เครื่องไม้เครื่องมือ</strong><br />1 มีดคัตเตอร์<br />2 ไม้บรรทัด<br />3 ดินสอ<br />4 แผ่นรองตัด<br />5 แปลงทาสี<br />6 กระดาษกาว<br /><br /><strong>วัสดุที่ต้องใช้<br /></strong>1 กระดาษลูกฟูก<br />2 สีโปสเตอร์<br />3 กระดาษหนังสือพิมพ์<br />4 กรรไกร<br />5 สีขาวรองพื้น<br />6 ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่<br />7 ลวดสำหรับทำที่แขวน<br />8 วานิชสำหรับเคลือบเงา<br />9 กาวลาเท็กซ์<br />10 รูปที่ต้องการติด<br /><br /><strong>วิธีทำ</strong><br />1.นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป ใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น ส่วนแบบของกรอบอยู่ ที่นี่ นำแบบไปขยายตามขนาดของรูป<br />2.พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย<br />3.นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน<br />4.นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง<br />5.นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด<br />6.นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบดโดยใช้เทคนิคง่ายๆในเรื่อง เปเปอร์มาเช่ ) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ<br />7.ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้งส่วนที่เป็นกรอบก็เรียบร้อย<br />ทีนี้เวลานำรูปมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งแล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งก็ะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจ<br /><br />อ้างอิง THE NEW CRAFT COLLECTION by LORENZ BOOKS<br />ที่มา : http://www.2-teen.com/community/viewthread.php?tid=20833 </font></div>hobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-34270237793152466182009-12-17T01:30:00.002-08:002009-12-17T01:36:21.853-08:00การทำยาสระผมยาสระผม<br />สูตรที่ 1<br />สรรพคุณ <br />น้ำมันหอมระเหยในผิวมะกรูดมีสรรพคุณบำรุงผม ช่วยให้ผมดกดำเป็นเงางาม ไม่ร่วงง่าย ไม่หงอกเร็ว ขจัดรังแค แก้คันศีรษะ บำรุงเส้นผม <br />ส่วนผสม <br />มะกรูด <br /><br />วิธิทำ <br />1. เอาผลมะกรูดมาใส่หม้อ ใส่น้ำลงไป 2 แก้วต่อมะกรูด 1 ลูก <br />2. ตั้งไฟอ่อนๆ ต้มให้เดือดนาน 15-20 นาที <br />3. ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น ขยำลูกมะกรูดกับน้ำต้ม แล้วกรองเอากากออก <br />4. เอาน้ำมะกรูดที่ได้ไปสระผม <br /><br />หมายเหตุ <br />ถ้าทำในปริมาณมากสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อนำมาใช้ครั้งต่อไป <br /><br />ที่มา : http://board.dserver.org/w/webdoae/00002234.html<br /><br />สูตรที่ 2<br />วิธีทำยาสระผม มะกรูด <br />นำผลมะกรูดสดๆ มาหั่นเอาแต่เปลือกไม่เอาเนื้อเอาเปลือกที่หั่นนำไปต้มให้สุกใช้ระยะเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วตักออกใส่ถาดทิ้งไว้ให้เย็น นำไปเข้าเครื่องปั่นให้ละเอียด หากปั่นไม่ได้ให้เติมน้ำไปด้วย เสร็จแล้วเทออกใส่ผ้าขาวบางกรองเอาน้ำมะกรูด เมื่อได้แล้วนำไปต้มเคี่ยวในกระทะทองเหลืองด้วยไฟอ่อนๆ จนเห็นว่าข้นแล้วจึงนำกรอกใส่ขวดในขณะที่ยังร้อนให้นำขวดแช่ในน้ำเย็น เป็นการพาสเจอร์ไรท์ฆ่าเชื้อโรคในขวด คุณสมบัติดีมากทำให้ผมดกดำไม่หงอกเร็วกว่ากำหนด <br />ที่มา http://board.dserver.org/w/webdoae/00002234.html<br /><br />สูตรที่ 3<br />การทำยาสระผมจากมะกรูดแบบง่าย ๆ <br />นำวิธีการทำน้ำยาสระผมจากมะกรูดแบบง่ายๆ มาให้ชมครับ ตอนเด็กๆ เคยเห็นคนสมัยก่อน นำลูกมะกรูดมาเผาไฟ ตอนเผาสังเกตดูจะมีน้ำมันจากผิวมะกรูดออกมา พอสุกได้ที่แล้วก็ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาขยำๆ สระผม... บอกว่าผมเงาดีว่างั้น... <br /> สมัยนี้ถ้าสวนไหนมีมะกรูดเยอะไม่รู้จะเอาไปทำอะไรลองเอามาทำน้ำยาสระผมดูนะครับ การทำก็แบบง่ายๆ ตามรูป คือนำมะกรูดมาหั่น นำไปต้มให้เดือดแล้วทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำไปปั่นๆ แยกกากออก เก็บไว้ในตู้เย็นไว้ใช้สระผมหรือล้างจานได้ครับ...เวลาสระผมถ้าต้องการฟองก็ผสมแชมพูท้องตลาดนิด ๆ ก็ได้ หรือไม่ผสมก็ได้ ผมลองเอาสระผมดูเส้นผมก็เงาดีครับ...หรือจะเอาไปทำน้ำยาล้างจานก็ได้ครับ ขจัดคราบไขมันได้ดี แต่ไม่มีฟอง...ก็ลองๆ ทำดูครับ...เพื่อที่จะได้ประโยชน์จากลูกมะกรูด...ดีกว่าปล่อยๆ ให้หล่นทิ้งนะครับ...<br />http://www.kaset4you.com/forum/index.php?board=12;action=display;threadid=860<br /><br /><br />สูตรที่ 4<br />แชมพูอัญชัญ <br />เครื่องปรุง <br />1.ดอกอัญชัญ 1 กำมือ <br />2.ลาโนลิน 100 กรัม <br />3.หัวแชมพู 1 กก. <br />4.ผงฟอง 100 กรัม <br />5.ผงข้น 150 กรัม <br />6.หัวน้ำหอม 15 cc <br />7.น้ำสะอาด 2 กก. <br /><br />วิธีทำ <br />นำดอกอัญชัญ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 2 กก. จนเดือด จากนั้นคั้นดอกอัญชัญ นำกากทิ้งไป นำน้ำที่ได้ทิ้งไว้ให้เย็น เติมหัวแชมพู คนจนเข้ากัน เติมลาโนลิน หัวน้ำหอม ผงฟอง และผงข้น ค่อยๆคนจนเข้ากันดีแบ่งใส่ขวดสวยๆ<br />http://board.dserver.org/w/webdoae/00002373.htmlhobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-85046155914207610542009-12-17T01:30:00.001-08:002009-12-17T01:36:34.114-08:00การทำน้ำยาล้างจาน1.วิธีทำน้ำยาล้างจาน <br />อุปกรณ์ทำน้ำยาล้างจาน ส่วนผสม<br />1. น้ำสะอาด 10 ลิตร<br />2. โซฮาแลบ30 สำหรับลดคราบ 1.5 กก. <br />3. N-70 สำหรับทำความสะอาด 1 กก. <br />4. เอ็มอี ทำให้น้ำยาหนืด 160 กรัม <br />5. แอมโมเนียม คลอไรด์ใส่ให้ข้น 100 กรัม <br />6. ผงกันบูด 15 กรัม <br />7. สีผสมอาหารสีที่เราต้องการควรเป็o สีผสมอาหารเพราะจะใช้ล้างจาน กลิ่นมะนาวหรือกลิ่นอะไรก็ได้แต่ที่นิยมจะเป็นกลิ่นมะนาวเพราะถ้าใช้มะนาวล้างจานจะรู้สึกดับกลิ่นคาวได้ดี <br /><br />วิธีทำ <br />ผสมโซฮาแลบ30 กับ แอมโมเนียมคลอไรด์ เข้าด้วยกัน คนจนส่วนผสมเป็นสีขาว แล้วจึงเติมเอ็มอี และ เอ็น70 ลงไป ค่อยๆเติมน้ำย้ำค่อยๆเติม กวนช้าๆ จนเข้ากันดี แล้วเติมกลิ่นและสีตามต้องการ ทิ้งไว้จนหมดฟอง(ประมาณ1-2 ชั่วโมง)ถ้ากวนเร็วล่ะฟองฟอดแน่ๆ แบ่งใส่ถุงหรือขวดนะ แต่ว่าถ้าใส่ขวดก็ดีนะใช้สะดวกดี<br />ที่มา http://www.siaminfobiz.com/forum/index.php?topic=99.0<br /><br />2.น้ำยาล้างจาน<br />ส่วนผสม <br />1. อีเมอร์ 28 ซีที (แชมพูออย) 1 กิโลกรัม<br />2. โซเดียมลอรี่ซัลเฟต (ผงฟอง) 1 ขีด<br />3. กรดมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ<br />4. กลิ่นมะนาว 0.5 ออนซ์<br />5. น้ำ 3 เท่าของแชมพู (5 ลิตร)<br />6. โซเดียมคลอไรด์ (ผงข้น) 2-3 ขีด (เกลือ 4 ถุงเล็ก)<br />วิธีทำ <br />1. นำอีเมอร์ 28 ซีที ผสมกับน้ำหอมคนให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำลงไปคนให้ทั่ว จากนั้นนำผงฟองมาใส่คนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน<br />2. นำกรดมะนาวละลายในน้ำร้อนเล็กน้อย<br />3. นำกรดมะนาวที่ละลายแล้วเทลงในส่วนผสมที่ 1 ที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน แล้วจึงนำเอาผงข้นมาใส่ (ค่อยๆ ใส่ทีละน้อยพอประมาณเพื่อให้ข้นขึ้น)<br /><br /><br />ที่มา : http://www.waluka.com/salary/s6.html<br /><br />วิธีประหยัดน้ำยาล้างจาน <br />เรามีวิธีประหยัดน้ำยาล้างจานที่แสนจะง่ายมาบอก แค่เวลาที่คุณซื้อน้ำยาล้างจานขวดใหม่มา แล้วนำเอาขวดเก่าที่หมดไปมา เติมน้ำยาขวดใหม่ประมาณ10 ซีซี แล้วเติมน้ำก็อกให้เต็มขวด เขย่าให้เข้ากัน แค่นี้ก็มีน้ำยาล้างจานเก็บไว้ใช้เป็นเดือนๆ เลยค่ะ แถมคุณภาพยังคงเต็มเปี่ยมอยู่เหมือนเดิมเลยค่ะ<br />ที่มา http://www.bkkmenu.com/tips/html/637.htmlhobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-84664447850228812762009-12-17T01:29:00.001-08:002009-12-17T01:36:51.837-08:00การทำสบู่การทำสบู่<br />ส่วนผสม <br /><br />หัวเชื้อ N70 จำนวน 100 กรัม <br />โซเดียมคลอไรด์ 5 กรัม <br />KD 10 กรัม <br />น้ำสะอาด 850 กรัม <br />สารกันบูด 5 กรัม <br />สี ตามต้องการ <br />น้ำหอม เลือกกลิ่นตามต้องการ <br /><br /><br /><br />วิธีทำ <br />ผสมหัวเชื้อ N70 และ โซเดียมคลอไรด์ เข้าด้วยกัน คนจนส่วนผสมเข้ากันดี แล้วจึงเติมเคดี <br />ค่อยๆเติมน้ำ คนช้าๆไปทางเดียวกัน(จะได้ไม่เกิดฟองมากเกิน) จนเข้ากันดี จึงเติมสารกันบูด แล้วเติม <br />น้ำหอมและสี ทิ้งไว้จนหมดฟอง(ประมาณ1-2 ชั่วโมง) จึงนำไปบรรจุภาชนะ ตามต้องการ<br />http://bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?user=greenstock&board=8&id=26&c=1&order=numtopic<br /><br /><br /><br /><br />วิธีการทำสบู่<br />เป็นที่ทราบกันดีว่าสบู่ช่วยรักษาความสะอาดให้ร่างกาย และสิ่ง อื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี ความสะอาดช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค การทำสบู่ใช้เองภายในบ้านสามารถทำได้โดยอาศัยส่วนประกอบที่สำคัญคือ ไขมันและน้ำด่าง <br />วิธีการทำสบู่ มีอยู่ 2 วิธีคือ <br />วิธีที่ 1 ใช้น้ำด่างสำเร็จรูปในท้องตลาด หากสามารถหาซื้อน้ำด่าง สำเร็จรูปได้ง่ายในท้องตลาด <br />วิธีที่ 2 ใช้น้ำด่างจากการชะล้างขี้เถ้า วิธีนี้ได้แบบอย่างมาจากผู้อพยพไปตั้งถิ่นฐานในทวีปอเมริกาเหนือรุ่นแรก ๆ <br /><br />ส่วนผสมของสบู่ <br />1. ไขมันและน้ำมัน อาจเป็นไขมันสัตว์หรือน้ำมันพืชก็ได้ แต่น้ำมันจากแร่ธาตุใช้ไม่ได้ ไขมันสัตว์ เช่น ไขวัว กระบือ น้ำมันหมู ฯลฯ ไขมัน พืช เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก ข้าวโพด เมล็ดฝ้าย ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และน้ำมันละหุ่ง ฯลฯ <br />2. น้ำด่าง น้ำด่างสำเร็จรูปที่ขายในท้องตลาดเรียกว่า โซดาไฟ หรือผลึกโซดา หรือผลึกโซเดียมไฮดรอกไซด์ ราคาถูกมีขายทั่วไป หรือน้ำ ด่างที่ได้จากการชะล้างขี้เถ้าเรียกว่า โพแทช <br />3. บอแร็กซ์ สารบอแร็กซ์นี้ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ แต่สารนี้ช่วยให้ สบู่มีสีสันสวยงามและทำให้เกิดฟองมาก มีจำหน่ายตามร้านขายยา หรือร้านขายของชำ มีชื่อเรียกว่า ผงกรอบ หรือผงนิ่ม ส่วนใหญ่บรรจุในถุง พลาสติก <br />4. น้ำหอม น้ำหอมก็ไม่จำเป็นต้องใช้เช่นกัน แต่ถ้าใช้จะทำให้สบู่ มีกลิ่นดีขึ้น ถ้าไขมันที่ใช้ทำสบู่นั้นเหม็นอับ ใช้น้ำมะนาวหรือน้ำมะกรูดผสม จะช่วยให้กลิ่นหอมยิ่งขึ้นและไม่เน่า <br />5. น้ำ น้ำที่ใช้ทำสบู่ได้ดีต้องเป็นน้ำอ่อน ถ้าเป็นน้ำกระด้างจะทำ ให้สบู่ไม่เกิดฟอง จึงขจัดความสกปรกไม่ได้ ควรทำให้น้ำนั้นหายกระด้าง เสียก่อน โดยเติมด่างประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) ต่อน้ำกระด้าง 1 แกลลอน (3.8 ลิตร) คนให้เข้ากัน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 3-4 วัน จึงเท เอาส่วนบนออกมา ส่วนน้ำและตะกอนที่ก้นภาชนะเททิ้งไปได้ น้ำที่เหมาะ ในการทำสบู่มากที่สุดคือน้ำฝน <br /><br />การทำสบู่จากน้ำด่างสำเร็จรูปในท้องตลาด <br />อุปกรณ์ <br />- ถ้วย ถังหรือหม้อที่ทำด้วยเหล็กหรือหม้อดินก็ได้ แต่ อย่าใช้หม้ออะลูมิเนียม เพราะด่างจะกัด <br />- ถ้วยตวงที่ทำด้วยแก้วหรือกระเบื้องเคลือบ <br />- ช้อนกระเบื้องเคลือบหรือช้อนไม้ และใบพายหรือกิ่งไม้ ขนาดเล็กสำหรับคน <br />- แบบพิมพ์สบู่อาจจะทำด้วยแผ่นไม้หรือกระดาษแข็งก็ ได้ ขนาดของแบบพิมพ์จะใช้กว้างหรือยาวตามต้อง การ แต่ส่วนลึกควรจะเป็น 2-3 นิ้ว ดีที่สุด <br />- ผ้าฝ้ายหรือกระดาษมันสำหรับรองรับสบู่ในแบบพิมพ์ โดยตัดผ้าหรือกระดาษออกเป็น 2 ชิ้น ชิ้นหนึ่งกว้าง กว่าเล็กน้อย อีกชิ้นหนึ่งยาวกว่าแบบเล็กน้อย ใช้ สำหรับช่วยยกสบู่ออกจากแบบพิมพ์ง่ายขึ้น <br />อัตราส่วนของส่วนผสมที่ใช้ในการทำสบู่ได้ประมาณ 4 กิโลกรัม <br /><br />น้ำมันหรือไขแข็งสะอาด 3 ลิตร หรือ 2.75 กก. <br />บอแร็กซ์ 57 มิลลิลิตร (1/4 ถ้วย) <br />ผลึกโซดาหรือน้ำด่าง 370 กรัม <br />น้ำ 1.2 ลิตร <br />น้ำหอม (เลือกกลิ่นตามต้องการ) 1-4 ช้อนชา <br /><br />ขั้นตอนในการทำสบู่ <br />1. เตรียมไขมัน ถ้าไขมันไม่สะอาด ควรทำให้สะอาดเสียก่อน โดยเอาไปต้มกับน้ำในปริมาณที่เท่ากันในกาต้มน้ำ เมื่อเดือดแล้วเทส่วน ผสมผ่านผ้าบาง ๆ หรือตะแกรงสำหรับกรองลงในภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วเติมน้ำเย็นลงไป 1 ส่วนต่อส่วนผสม 4 ส่วน ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นโดยไม่ ต้องคน ถ้าจะให้สะอาดยิ่งขึ้นควรใส่มันเทศที่หั่นเป็นแว่นลงไปก่อน ที่จะต้มส่วนผสม <br />2. เตรียมน้ำด่างผสม ทำได้โดย ตวงน้ำตามปริมาณที่ต้องการ แล้วค่อย ๆ เติมด่าง (ผลึก โซดา) ที่จะใช้ลงไปในน้ำ ไม่ควรเติมน้ำลงไปในด่าง เพราะจะเกิดความร้อน และกระเด็นทำให้เปรอะเปื้อนได้ แล้วปล่อยให้น้ำด่างผสมนี้เย็นลงจนปกติ <br />3. ค่อย ๆ เติมน้ำด่างผสมนี้ลงไปในไขมันที่ละลายแล้วในข้อ 1 ขณะที่เติมนี้ต้องคนส่วนผสมทั้งหมดนี้อย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอในทิศทาง เดียวกัน จนกว่าส่วนผสมจะข้นตามปกติ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ช่วงนี้ เติมน้ำหอมที่เตรียมไว้ลงไปได้ หลังจากนั้นปล่อยไว้ 15-20 นาที จึงค่อย คนหนึ่งครั้ง ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง เมื่อส่วนผสมเหนียวดีแล้วจึงเทลงในแบบ พิมพ์ ซึ่งมีผ้าหรือกระดาษมันรองอยู่ <br />4. หาฝาครอบแบบพิมพ์ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน ไม่ควรมีการ เคลื่อนย้ายหรือถูกกระทบกระเทือน สบู่จะยึดกันแน่นสามารถเอาออกจาก แบบพิมพ์ได้ <br />5. เมื่อสบู่แข็งตัวดีแล้ว นำออกจากแบบพิมพ์ แล้วใช้เส้นลวดหรือ เส้นเชือกตัดสบู่ออกเป็นชิ้น ๆ ตามขนาดที่ต้องการ แล้วนำไปวางเรียงไว้ให้ อยู่ในลักษณะที่ลมพัดผ่านได้ทั่วถึงในบริเวณที่อุ่นและแห้ง ปล่อยไว้ 2-4 สัปดาห์ ก็นำไปใช้ได้ <br /><br />การทดสอบว่าสบู่จะดีหรือไม่ <br />- สบู่ที่ดีควรจะแข็ง สีขาว สะอาด กลิ่นดีและไม่มีรส สามารถขูด เนื้อสบู่ออกเป็นแผ่นโค้ง ๆ ได้ <br />- ไม่มันหรือลื่นจนเกินไป เมื่อใช้ลิ้นแตะดูไม่หยาบหรือสาก <br />การปรับปรุงสบู่ให้ดีขึ้น <br />ถ้าสบู่ที่ผ่านขั้นตอนตามเวลาที่ทำทุกช่วงแล้ว แต่ยังมีส่วนผสมบาง ส่วนไม่แข็งตัวหรือแยกกันอยู่ หรือไม่ดีเพราะสาเหตุใดก็ตาม อาจแก้ไขให้ดี ขึ้นดังนี้ <br />- ตัดสบู่ออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในหม้อที่มีน้ำบรรจุอยู่ 2.8 ลิตร พร้อมทั้งเทส่วนที่เป็นของเหลวที่เหลืออยู่ในแบบพิมพ์ลงไปด้วย <br />- นำไปต้มนานประมาณ10 นาที อาจเติมน้ำมะนาวหรือน้ำมัน อื่น ๆ ที่มีกลิ่นหอมลงไปในส่วนผสมประมาณ 2 ช้อนชา (ถ้ายังไม่ได้เติม)ต่อจากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในแบบพิมพ์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ปล่อยไว้ 2 อัน แล้วดำเนินการตามที่กล่าวมาแล้ว <br /><br />การทำสบู่จากน้ำด่างที่ได้จากขี้เถ้า <br />เริ่มต้นด้วยการทำน้ำด่างขึ้นเองจากขี้เถ้า <br />อุปกรณ์ <br />1. เครื่องมือสำหรับการชะล้างน้ำด่าง ประกอบด้วยก้อนหิน ขนาดย่อม ๆ หลายก้อน <br />- แผ่นหินราบมีร่องน้ำให้ไหลได้ <br />- ถังไม้ขนาดจุ 19 ลิตร มีรูเล็ก ๆ หลายรูติดอยู่ก้นถัง <br />- ภาชนะรองน้ำด่าง ไม่ควรใช้ภาชนะที่ทำด้วยอะลูมิเนียม เพราะน้ำด่างจะกัด <br />- กิ่งไม้เล็ก ๆ และฟาง <br />- ขี้เถ้า 19 ลิตร ซึ่งได้จากการเผาไหม้ทุกชนิด ขี้เถ้าจาก ไม้เนื้อแข็งจะใช้ทำน้ำด่างได้ดีที่สุด สำหรับชนบทแถบ ชายทะเล ขี้เถ้าจากการเผาสาหร่ายทะเลใช้ได้ดีมาก เพราะมีธาตุโซเดียมทำให้สบู่แข็งตัวได้ดี <br />- น้ำอ่อนปริมาณ 7.6 ลิตร <br /><br />2. วิธีการชะล้างขี้เถ้าทำน้ำด่าง <br />- ตั้งอุปกรณ์ดังแสดงในรูป โดยที่ก้นของถังทำเป็นที่กรอง ขี้เถ้า ใช้กิ่งไม้ไข้วกัน 2 กิ่ง เรียงเป็นแถว แล้วเอาฟางวางลงบนกิ่ง <br />- ใส่ขี้เถ้าลงในถัง แล้วเทน้ำอุ่นลงในถังเพื่อให้ขี้เถ้าเปียก และเหนียว เกลี่ยให้เกิดหลุมตรงกลาง แล้วค่อย ๆ เทน้ำส่วนที่เหลือลงใน หลุมนั้น ปล่อยให้น้ำซึมแล้วเติมน้ำอีก น้ำด่างสีน้ำตาลจะไหลลงสู่ส่วนล่าง ของถัง นานประมาณ 1 ชม. น้ำด่างที่ได้จะมีปริมาณ 1.8 ลิตร ถ้าน้ำด่างที่ มีความเข้มข้นดีแล้ว ทดสอบได้โดยเอาไข่ไก่หรือมันฝรั่งใส่ลงไป ไข่หรือมัน จะลอยได้ หรือถ้าจุ่มขนไก่ลงไป น้ำด่างจะเกาะติดแต่ไม่กัดขนไก่ให้หลุด ถ้าน้ำด่างอ่อนไป ควรเทกลับคืนถังอีกครั้ง หรือเคี่ยวให้ข้นด้วยการต้ม <br />- ส่วนการทำสบู่ในขั้นต่อไปนั้นดำเนินการเช่นเดียวกันกับ วิธีแรก <br /><br />ข้อควรระวังในการใช้น้ำด่าง <br />น้ำด่างนี้เป็นพิษเพราะกัดผิวหนังและทำให้เกิดแผลร้ายแรงได้ ฉะนั้น ไม่ควรให้ถูกผิวหนัง ถ้าถูกต้องรีบล้างทันทีด้วยน้ำเปล่า แล้วล้างด้วย น้ำส้มอีกครั้งหนึ่ง <br />ถ้ากลืนน้ำด่างลงไป ให้รีบดื่มน้ำส้ม น้ำมะนาวหรือมะกรูดตามลงไป ให้มาก ๆ แล้วรีบไปพบแพทย์ ดังนั้นควรเก็บน้ำด่างให้พ้นมือเด็ก <br /><br />หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจนะคับ <br /><br />การทดสอบว่าสบู่จะดีหรือไม่ <br />- สบู่ที่ดีควรจะแข็ง สีขาว สะอาด กลิ่นดีและไม่มีรส สามารถขูด เนื้อสบู่ออกเป็นแผ่นโค้ง ๆ ได้ <br />- ไม่มันหรือลื่นจนเกินไป เมื่อใช้ลิ้นแตะดูไม่หยาบหรือสาก <br />การปรับปรุงสบู่ให้ดีขึ้น <br />ถ้าสบู่ที่ผ่านขั้นตอนตามเวลาที่ทำทุกช่วงแล้ว แต่ยังมีส่วนผสมบาง ส่วนไม่แข็งตัวหรือแยกกันอยู่ หรือไม่ดีเพราะสาเหตุใดก็ตาม อาจแก้ไขให้ดี ขึ้นดังนี้ <br />- ตัดสบู่ออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในหม้อที่มีน้ำบรรจุอยู่ 2.8 ลิตร พร้อมทั้งเทส่วนที่เป็นของเหลวที่เหลืออยู่ในแบบพิมพ์ลงไปด้วย <br />- นำไปต้มนานประมาณ10 นาที อาจเติมน้ำมะนาวหรือน้ำมัน อื่น ๆ ที่มีกลิ่นหอมลงไปในส่วนผสมประมาณ 2 ช้อนชา (ถ้ายังไม่ได้เติม)ต่อจากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในแบบพิมพ์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ปล่อยไว้ 2 อัน แล้วดำเนินการตามที่กล่าวมาแล้ว <br />การทำสบู่จากน้ำด่างที่ได้จากขี้เถ้า <br />เริ่มต้นด้วยการทำน้ำด่างขึ้นเองจากขี้เถ้า <br />อุปกรณ์ <br />1. เครื่องมือสำหรับการชะล้างน้ำด่าง ประกอบด้วยก้อนหิน ขนาดย่อม ๆ หลายก้อน <br />- แผ่นหินราบมีร่องน้ำให้ไหลได้ <br />- ถังไม้ขนาดจุ 19 ลิตร มีรูเล็ก ๆ หลายรูติดอยู่ก้นถัง <br />- ภาชนะรองน้ำด่าง ไม่ควรใช้ภาชนะที่ทำด้วยอะลูมิเนียม เพราะน้ำด่างจะกัด <br />- กิ่งไม้เล็ก ๆ และฟาง <br />- ขี้เถ้า 19 ลิตร ซึ่งได้จากการเผาไหม้ทุกชนิด ขี้เถ้าจาก ไม้เนื้อแข็งจะใช้ทำน้ำด่างได้ดีที่สุด สำหรับชนบทแถบ ชายทะเล ขี้เถ้าจากการเผาสาหร่ายทะเลใช้ได้ดีมาก เพราะมีธาตุโซเดียมทำให้สบู่แข็งตัวได้ดี <br />- น้ำอ่อนปริมาณ 7.6 ลิตร <br />2. วิธีการชะล้างขี้เถ้าทำน้ำด่าง <br />- ตั้งอุปกรณ์ดังแสดงในรูป โดยที่ก้นของถังทำเป็นที่กรอง ขี้เถ้า ใช้กิ่งไม้ไข้วกัน 2 กิ่ง เรียงเป็นแถว แล้วเอาฟางวางลงบนกิ่ง <br /><br />- ใส่ขี้เถ้าลงในถัง แล้วเทน้ำอุ่นลงในถังเพื่อให้ขี้เถ้าเปียก และเหนียว เกลี่ยให้เกิดหลุมตรงกลาง แล้วค่อย ๆ เทน้ำส่วนที่เหลือลงใน หลุมนั้น ปล่อยให้น้ำซึมแล้วเติมน้ำอีก น้ำด่างสีน้ำตาลจะไหลลงสู่ส่วนล่าง ของถัง นานประมาณ 1 ชม. น้ำด่างที่ได้จะมีปริมาณ 1.8 ลิตร ถ้าน้ำด่างที่ มีความเข้มข้นดีแล้ว ทดสอบได้โดยเอาไข่ไก่หรือมันฝรั่งใส่ลงไป ไข่หรือมัน จะลอยได้ หรือถ้าจุ่มขนไก่ลงไป น้ำด่างจะเกาะติดแต่ไม่กัดขนไก่ให้หลุด ถ้าน้ำด่างอ่อนไป ควรเทกลับคืนถังอีกครั้ง หรือเคี่ยวให้ข้นด้วยการต้ม <br />- ส่วนการทำสบู่ในขั้นต่อไปนั้นดำเนินการเช่นเดียวกันกับ วิธีแรก <br /><br />ข้อควรระวังในการใช้น้ำด่าง <br />น้ำด่างนี้เป็นพิษเพราะกัดผิวหนังและทำให้เกิดแผลร้ายแรงได้ ฉะนั้น ไม่ควรให้ถูกผิวหนัง ถ้าถูกต้องรีบล้างทันทีด้วยน้ำเปล่า แล้วล้างด้วย น้ำส้มอีกครั้งหนึ่ง <br />ถ้ากลืนน้ำด่างลงไป ให้รีบดื่มน้ำส้ม น้ำมะนาวหรือมะกรูดตามลงไป ให้มาก ๆ แล้วรีบไปพบแพทย์ ดังนั้นควรเก็บน้ำด่างให้พ้นมือเด็กhobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-30319409379528461202009-12-17T01:22:00.000-08:002009-12-17T01:37:01.716-08:00กรอบรูปวิทยาศาสตร์<div><font face="arial"><strong>เงินลงทุน :<br /></strong>ประมาณ 30,000 บาท แยกเป็นอุปกรณ์หลัก ๆ ประกอบไปด้วย<br />ไม้อัด หรือไม้ MDF ความหนา 9 มิลลิเมตร ราคา 210 บาท ต่อแผ่น ขนาด 3 มิลลิเมตร ราคา 90 บาท กระดาษลายไม้มีหลายแบบหลายราคา เฉลี่ยแล้ว ตกเมตรละ 20 กว่าบาท หรือ อาจใช้พีวีซีลายไม้ซึ่งจะสวยงามและคงทนกว่า ราคาประมาณ 40 บาท น้ำยาโพลีเอสสเตอร์เรซิ่น กิโลกรันละ 70 บาท ตัวเร่งปฏิกริยา กิโลกรัมละ 230 บาท ฟิล์มเคลือบมีหลายแบบหลายราคา ทั้งบบเงาและแบบด้าน เฉลี่ยแล้วประมาณ 60-70 บาท ไปจนถึง 100 กว่าบาท ต่อเมตร นอกนั้นก็เป็นพวกวัตถุดิบเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ เช่นกระดาษอัด กระดาษลายหน้า พีวีซีข้าง ไม้บรรทัดเหล็ก คัดเตอร์ กระดาษกาว กระดาษลาย กระดาษลายหลัง ขาตั้ง กระจก หูแขวน รูปภาพ ต้อตติดขาตั้งและหูแขวน ไขควง ดิ้นทอง กาวลาเท็กซ์ เลื่อยไฟฟัา ตะไบแบน(เครื่องเจียร์) ลูกกลิ้ง เลื่อยไฟฟ้า น้ำยากันซึม ทินเนอร์ น้ำมันสน ถ้ายพลาสติก สว่านเจาะรู ปากกาเคมีลบไม่ได้(ตราม้า) ไม่ไอศครีม กาวน้ำ หรือสเปรย์แล็คเกอร์<br /><br /><strong>แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ :</strong><br />1. ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์<br />2. องค์การค้าคุรุสภา<br /><br /><strong>รายได้:</strong> จากราคากรอบรูปวิทยาศาสาตร์ ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพ หากเป็นภาพเล็ก เช่น 8*10 นิ้ว ราคาจะตกประมาณ 130 บาท แบบเคลือบเงาราคา 160 บาท แบบเคลือบด้าน ซึ่งจะมีลวดลายสวยกว่า หากเป็นภาพขนาด 20*30 นิ้ว แบบเคลือบเงาราคาจะตกประมาณ 700 บาท และ 800 บาท แต่ถ้าหากเป็นกรอบ ลอย คือเป็นรูปลอย ๆ ไม่มีเนื้อไม้ ราคากก็จะต่ำลงหน่อย ราคาที่ว่ามานี้ เมื่อหักเปอร์เซ็นต์ให้ร้านถ่ายภาพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนผู้รับงานให้เราเมื่อหักค่าวัสดุ ค่าขนส่ง ค่าไฟ จะเหลือกำไรสุธิประมาณ 20-30% สมมุติว่าเราหางานขนาด 8*10 นิ้ว ได้วันละ 20 ชิ้น จะมีกำไรวันละ 500 บาท เดือนหนึ่งก็ตก 10,000 กว่าบาท ซึ่งการหางานวัน วันละแค่ 20 ชิ้น ผู้ที่มีประสบการณ์ หรือคนที่ตั้งใจทำอย่างจริงจังไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรอะไรเลย<br /><br /><strong>อุปกรณ์ :<br /></strong>กระดาษอัด กระดาษลายหน้า พีวีซีข้าง ไม้บรรทัดเหล็ก คัดเตอร์ กระดาษกาว กระดาษลายหลัง ขาตั้ง กระจก หูแขวน รูปภาพ น้อตติดขาตั้งและหูแขวน ไขควง ดิ้นทอง กาวลาเท็กซ์ เลื่อยไฟฟ้า ตะไบแบน(เครื่องเจียร์) ลูกกลิ้ง น้ำยากันซึม กระดาษทราย ทินเนอร์ น้ำมันสน ถ้วยพลาสติก สว่านเจาะรู ปากกาเคมีลบไม่ได้(ตราม้า) ไม้ไอศครีม กาวน้ำหรือสเปรย์แล็คเกอร์ น้ำยาตัวเร่ง<br /><strong>วิธีทำ :</strong><br />1. ติดกระดาษลายกับไม้ ใช้ลูกกลิ้งกลิ้งให้เรียบ พอแห้งใช้คัดเตอร์ให้ชิดกับไม้มากที่สุด จากนั้นนำรูปภาพไปวัดขนาดให้อยู่กลางแผ่นไม้แล้วทำจุดกำกับ<br />2. นำรูปภาพไปทากาว วางลงบนไม้ตามจุดที่กำกับไว้ใช้ลูกกลิ้งกลิ้งภาพให้เรียบแน่น<br />3. ติดดิ้นทองรอบรูปภาพ<br />4. ติดกระดาษกาวทั้ง 4 ด้านของไม้ ส่วนที่เลยให้พับเก็บไว้ด้านหลัง<br />5. ผสมน้ำยาเรซิน ในอัตตราส่วนเรซิน 1 แก้วต่อตัวเร่ง 1 ช้อน แล้วใช้ไม้คน<br />6. เทน้ำยาเรซินลงตรงกลางรูปภาพ แล้วใช้แผ่นฟิล์มไมร่าวางทับบนน้ำยา<br />7. ใช้ลูกกลิ้งลากกลางภาพไปทั้ง 4 มุม<br />8. คว่ำภาพทิ้งไว้ให้แห้ง ดึงฟิล์มไมร่าออก แล้วตกแต่งขอบให้เรียบ<br /><br /><strong>สถาบันฝึกอบรม :</strong><br />1. สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานกลาง 39 ซอยอินทามาระ 22 ถนสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 6918437-8<br />2. สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 50 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 5793025, 57900113<br />3. งานฝึกอบรมและบริการ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมรายสาขา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 กล้วยน้ำไท เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 3922486, 3810025-32 ต่อ 21<br /><br /><strong>ตลาด/แหล่งจำหน่าย :<br /></strong>ร้านถ่ายรูปทั่วไป ร้านทำกรอบรูป บริษัท ห้างร้าน หรือตามสถาบันศึกษา<br /><br /><strong>แหล่งเงินทุน :</strong><br />1. กรมประชาสงเคราะห์ ถนนกรุงเกษม กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 2813199<br />2. มูลนิธิทิสโก้เพื่อการกุศล เลขที่ 48/11 อาคารทิสโก้ทาวเวอร์ ชั้น 5 ถนนสาธร เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 6380555<br />3. กองสังคนส่งเคราะห์ สำนักสวัสดิการสังคม กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 2460284<br /><br />ที่มา : http://www.rvsd.ac.th/jobs/capital/ocupations/44.html </font></div>hobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-20038954658148951252009-12-17T01:18:00.001-08:002009-12-17T01:37:17.931-08:00รายชื่ออาชีพเสริมที่น่าสนใจกระเป๋าราตรี-กระเป๋าสารพัดประโยชน์-รองเท้าแตะใส่อยู่บ้าน<br />ก๋วยเตี๋ยวชมสวน-ก๋วยเตี๋ยวหลอด<br />กะหรี่พัฟ ปั้นสิบทอด<br />การเขียนภาพซับสีปิดทอง (ลายคำล้านนา)<br />การจัดดอกไม้แบบตะวันตก<br />การจัดดอกไม้แบบตะวันออก<br />การจัดดอกไม้แบบอิเคบาน่า<br />การจัดดอกไม้เป็นของขวัญ<br />การจัดดอกไม้เป็นช่อมือถือและช่อติดเสื้อ<br />การจัดดอกไม้พื้นฐานและประยุกต์ในการประกอบอาชีพ<br />การจัดดอกไม้สดแบบสากลเพื่อธุรกิจ<br />การจัดสวนถาดแบบประยุกต์<br />การจัดสวนน้ำพุ น้ำล้น<br />การเจียระไนตนเองเพื่อดึงศักยภาพมาใช้<br />การใช้วัตถุเจือปนอาหารในอุตสาหกรรมอาหาร<br />การแต่งหน้าเค้ก<br />การถักโครเชต์ (Crocheting) ขั้นพื้นฐาน<br />การถักเชือกร้อยลูกปัด (ดินเนรมิต) ชุด สร้อยคอและสร้อยข้อมือ<br />การถักแท็ต (Tatting) ขั้นพื้นฐาน<br />การทาบกิ่ง ต่อกิ่ง ติดตาพันธุ์ไม้ต่าง ๆ<br />การทำกรอบรูปไม้เส้นเพื่อทำใช้เองและเปิดกิจการแบบครบวงจร<br />การทำขนมเค้กเพื่ออาชีพ<br />การทำขนมปังพื้นฐาน<br />การทำขนมเปี๊ยะ-โมจิ<br />การทำคุกกี้เพื่ออาชีพ<br />การทำเครื่องแขวนไทยจากดอกไม้ประดิษฐ์เป็นของขวัญ<br />การทำโคมไฟสนามประดับสวน (สามารถพ่นน้ำได้)<br />การทำแชมพูสมุนไพรธรรมชาติ<br />การทำเตาฟืนมีปล่องประสิทธิภาพสูงขายเป็นอาชีพเสริม<br />การทำเตาเอนกประสงค์ประสิทธิภาพสูงขายเป็นอาชีพเสริม<br />การทำเทียนหอมขนมไทย<br />การทำน้ำยาทำความสะอาด<br />การทำบายศรีปากชาม<br />การทำบุหงารำไปแบบสดและแบบแห้ง<br />การทำปั้นขลิบนึ่งไส้ปลา และการทำปั้นขลิบทอด<br />การทำผ้าบาติกและบาติกจากน้ำเต้าหู้<br />การทำแผ่นปูทางเดินประดับสวน<br />การทำฝอยทอง และสังขยา<br />การทำพายชนิดต่าง ๆ<br />การทำไฟเบอร์กล๊าส เบื้องต้น<br />การทำภาพนูนลงบนไฟเบอร์กล๊าส<br />การทำภูเขาน้ำไหลแบบเลี้ยงปลาได้<br />การทำยาหม่องชนิดต่าง ๆ และยาดมส้มโอมือ<br />การทำลอดช่องไทย ลอดช่องสิงคโปร์<br />การทำลูกชุบ<br />การทำลูกประคบสมุนไพรสด<br />การทำโลชั่นธรรมชาติผสมสารสมุนไพรสกัด<br />การทำวุ้นต่างๆ (4 ชนิด)<br />การทำหัวโขนเล็ก<br />การนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ (ประยุกต์แบบไทย)<br />การนวดหน้าและกดจุดเพื่อสุขภาพ<br />การบุกล่องผ้าไหมและลวดลายผ้า<br />การประดิษฐ์ "ดอกฟาแลนด์นอปซิส" พร้อมต้นจากดินญี่ปุ่น<br />การประดิษฐ์โคมไฟรูปแบบถ้ำจำลอง<br />การประดิษฐ์ดอกกุหลาบนาม "ควีนส์สิริกิติ์" จากดินญี่ปุ่น<br />การประดิษฐ์ต้นไม้มงคลจากลวด (ส้มทองมงคล)<br />การประดิษฐ์ต้นไม้มงคลจากลวดประดับหินหยกแท้<br />การปลูกต้นไม้เกาะหิน (บอนไซเกาะหิน)<br />การปลูกผักเพื่อบริโภค (แนวเกษตรธรรมชาติ)<br />การปลูกพืชไร้ดิน<br />การปลูกไม้ดอกกระถาง<br />การปักดิ้นเงินดิ้นทองด้วยมือขั้นพื้นฐาน (Metal Work)<br />การปักนูนมีมิติ (Stumpwork)<br />การปักผ้าด้วยมือเบื้องต้น (ปักไหม)<br />การปักพุ่มนมัสการจากดอกไม้สด<br />การปักริบบิ้นผ้าไหม (Silk Ribbon) ด้วยมือเบื้องต้น<br />การปักเลื่อม-ลูกปัด แนวแฟชั่น<br />การปักเลื่อม-ลูกปัดขั้นประยุกต์<br />การปักเลื่อม-ลูกปัดขั้นพื้นฐาน<br />การปักสม๊อก (Smocking) ขั้นพื้นฐาน<br />การปั้นตุ๊กตาการ์ตูนติดกระจกส่องหน้า<br />การปั้นตุ๊กตาเด็กไทยติดกรอบรูป (ขนาด 8X10 นิ้ว)<br />การปั้นตุ๊กตาสัตว์-ตุ๊กตาญี่ปุ่น จากกระดาษหนังสือพิมพ์<br />การปั้นผงไม้จันทน์ (ลายเครือเถาว์)<br />การปั้นวิถีชิวิตคนไทย ชุดเรือนแพ<br />การปิดทองพระพุทธรูปบูชา<br />การผลิตกุนเชียง<br />การผลิตซีอิ๊ว เต้าเจี้ยว การหมักไข่เค็มจากกากซีอิ๊ว/เต้าฮวย ปาท่องโก๋และแปรรูป<br />การผลิตนมถั่วเหลือง เต้าหู้ เต้าฮวยฟรุตสลัด<br />การผลิตน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์<br />การผลิตไส้กรอกเยอรมัน<br />การผลิตไส้กรอกอีสาน แหนมซี่โครงหมู และแหนมหูหมู<br />การผลิตหมูแผ่นหมูหยอง<br />การผลิตหมูยอ<br />การพับผ้าเช็ดหน้าเป็นรูปสัตว์และดอกไม้<br />การพับและจัดดอกบัว<br />การพิมพ์ซิลค์สกรีน 4 สี<br />การเพาะเห็ดในถุงพลาสติก<br />การเพาะเห็ดฟางกองเตี้ย<br />การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อย่อยสลายอินทรีย์วัตถุ<br />การวาดภาพคนเหมือนด้วยสีคาร์บอนด์ (สีฝุ่นดำ) เบื้องต้น<br />การวาดภาพทิวทัศน์-ดอกไม้ ตามลักษณะ IMPRESSIONISM ด้วยสีอะครีลิค<br />การวาดภาพสีน้ำขั้นสูง<br />การวาดภาพสีน้ำเบื้องต้น<br />การออกแบบลวดลายไทยเบื้องต้น<br />แกะสลักกล่องไข่วิจิตร<br />ขนมเค้กนึ่งหน้าแตกสูตรไม่ใส่ไข่ (เจ)<br />ขนมชั้นดอกกุหลาบ<br />ขนมดอกอัญชัญ ขนมถ้วยตะไล<br />ขนมถั่วแปบเสวย-ขนมเหนียว<br />ขนมไทย อาลัวดอกกุหลาบ<br />ข้าวเหนียวมูน (5 ชนิด)<br />คุกกี้ธัญพืช<br />งานถักตาข่ายดอกไม้แห้งแบบต่าง ๆ<br />งานใบตองสด-พานขันหมาก<br />งานมาลัยดอกไม้สดของชำร่วย<br />จิตรกรรมไทย/ภาพชาวบ้าน ชีวิตไทย<br />จิตรกรรมไทยแบบประเพณี/ภาพพุทธประวัติ,เทวดาและนางฟ้า<br />เฉาก๊วยและซาหริ่ม<br />ชอปเปอร์ลวดดัด<br />ชีสเค้กชนิดต่าง ๆ<br />ซาลาเปา 3 ไส้ (หมูแดง หมูสับ ถั่วดำ)<br />ซาลาเปาไส้ต่างๆ<br />ซุปต่างๆ (อาหารฝรั่ง)<br />ดรออิ้งคนเหมือนเบื้องต้น<br />ดรออิ้งทิวทัศน์เบื้องต้น<br />ดรออิ้งหุ่นนิ่งเบื้องต้น (การจัดองค์ประกอบศิลป์)<br />ดอกกล้วยไม้ใบยางเพื่อการส่งออก<br />ดอกไม้เทียน ช่อ และดอกไม้เทียนลอยน้ำกลิ่นหอม<br />ดอกไม้สดอบแห้ง<br />ดอกไม้สดอบแห้งเพื่ออาชีพ (ดอกไม้แก้ว)<br />ดอกไม้แห่งความรัก<br />ดิน-ปุ๋ย-น้ำ เพื่อการเกษตร<br />ตะกร้ารีไซเคิล<br />ตะกร้ารีไซเคิลประยุกต์ (พานรูปทรงดอกบัว)<br />ตีลัญจกร<br />ตุ๊กตาหรรษา<br />เต้าหู้สมุนไพร และแปรรูปกากถั่วเหลือง<br />แต่งตัวให้โอ่ง (ด้วยผ้าไทย) 1 "วิจิตรกุญชร"<br />แต่งตัวให้โอ่ง (ด้วยผ้าไทย) 2 "เรือนไทยวิจิตรศิลป์"<br />แต่งตัวให้โอ่ง (ด้วยผ้าไทย) 3 "โอ่งสวยลายศิลป์"<br />ทองหยิบ (ดอกเล็ก) ขนมโสมนัส<br />เทคนิคการดูแลสุขภาพด้านโภชนาการอาหาร การคำนวณแคลอรี่และเมนูอาหาร<br />เทคนิคการตรวจสอบและซ่อมคอมพิวเตอร์เบื้องต้นด้วย<br />เทคนิคการแต่งหน้าเค้กขั้นพื้นฐาน<br />เทคนิคการแต่งหน้าเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน<br />เทคนิคการทำแกงส้ม ตำรับโบราณ เพื่อการค้า<br />เทคนิคการทำน้ำยาไก่ น้ำเงี้ยว และน้ำพริกแบบโบราณพร้อมเครื่องเคียง<br />เทคนิคการทำเยลลี่แข็ง เยลลี่อ่อนและแยม<br />เทคนิคการทำแยมและมาร์มาเลตเชิงการค้า<br />เทคนิคการผลิตหมูทุบ และหมูฝอย<br />เทคนิคการเพาะถั่วงอกอนามัย<br />เทคนิคการย้อมลวดลายผ้า (สไตล์ญี่ปุ่น)<br />เทคนิคสีน้ำมัน<br />เทคโนโลยีการทำน้ำผักและผลไม้พร้อมดื่ม<br />เทคโนโลยีการแปรรูปผลไม้ดอง และผลไม้อบแห้งสามรส<br />เทคโนโลยีการแปรรูปผักและผลไม้แช่อิ่มแห้ง และการดอง<br />เทียนกลิ่นหอม<br />เทียนและเจลแฟนตาซี (กลิ่นหอม-ลอยน้ำ-ไร้ควัน-กันยุง)<br />เทียนหอมดนตรี (เพลงคริสต์มาส เพลงวันเกิด) - เทียนรูปผู้หญิงและเทียนสัตว์ต่างๆ<br />นกน้อยสำลีแฟนซีรีไซเคิล (เพื่ออาชีพ)<br />นมข้าวโพด และครองแครงกรอบ<br />น้ำพริก เจ เพื่อจำหน่าย<br />น้ำพริกเสวยปลาร้าสับทรงเครื่องสมุนไพรไทย,นพเก้า (สูตรครูปุ้ย)<br />บอนไซจำลองจากลวด<br />บัวลอยงาดำ น้ำขิง-บัวลอยมะพร้าวอ่อน<br />เบเกอรี่<br />ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหม "ดอกพุดจีน"<br />ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหม "ต้นดอกกล๊อกซีเนีย"<br />ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหม ชุด กล้วยไม้ไทย 1 "แคทลียา"<br />ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหม ชุด กล้วยไม้ไทย 2 "หวาย"<br />ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหม ชุด กล้วยไม้ไทย 3 "รองเท้านารี"<br />ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหมเพื่ออาชีพ 1 ดอกไม้จิ๋ว 3 แบบ (ชวนชม กล้วยไม้หวาย)<br />ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหมเพื่ออาชีพ 2 ไม้กระถางเล็ก (หน้าแมว,ไฮเดรนเยีย)<br />ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหมเพื่ออาชีพ 3 ของชำร่วย (บุหงา-การะบูร)<br />ปอเปี๊ยะสด<br />ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด ขนมไทย<br />ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด ตู้เบเกอรี่<br />ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด ผลไม้<br />ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด ผักต่าง ๆ<br />ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด ผัดไทย หอยทอด<br />ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด อาหารภาคกลาง<br />ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด อาหารภาคใต้<br />ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด อาหารภาคเหนือ<br />ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด อาหารภาคอีสาน<br />ปาท่องโก๋-สังขยา-น้ำนมถั่วเหลือง<br />เปเปอร์มาเช่ประยุกต์ (ทำตระกร้าใส่ผลไม้พร้อมแม่พิมพ์)<br />เปเปอร์มาเช่ประยุกต์ (ทำถาดปั้นเยื่อกระดาษติดนาฬิกา)<br />เปเปอร์มาเช่ประยุกต์ (ปั้นเยื่อกระดาษติดดินเผา กรอบรูปโบราณ)<br />เปเปอร์มาเช่ประยุกต์ (ออกแบบบรรจุภัณฑ์)<br />เปเปอร์มาเช่ประยุกต์ (อัดชิ้นงานนูนต่ำ)<br />ผลิตภัณฑ์พลาสติกหล่อ "เรซิ่น" เบื้องต้น (การทำแบบพิมพ์ด้านเดียวและ)<br />ผลิตภัณฑ์อาหารเส้น : บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและบะหมี่ญี่ปุ่น<br />พระรามลงสรง และขนมบัวลอยดอกอัญชัญ<br />พายและทาร์ตไส้ต่าง ๆ<br />เพ้นท์กระจกนาฬิกาและแก้วต่างๆ แบบประยุกต์<br />เพ้นท์ขวดน้ำหอมอัญมณี 7 สี (สไตล์เชกฯ)<br />เพ้นท์ไข่อัญมณี (จิวเวอรี่ บล็อค)<br />เพ้นท์ผ้าไหมไทย (สไตล์ยุโรป)<br />เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 1) ขั้นพื้นฐาน<br />เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 2) พวงแสด-นกและดอกแมกโนเลีย<br />เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 3) ผัก-ผลไม้นานาชนิด<br />เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 4) ได้เวลาของ ซานตาคลอส-วิวฤดูหนาว<br />เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 5) ปีจอ-ปีกุน<br />เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 6) โบตั๋นบนกระจกยาวเต็มตัว<br />เพ้นท์เสื้อยืด-ยีนส์ (สไตล์แฟชั่น)<br />ภาพแกะสลักไม้เขียนสี<br />ภาพทรายน้ำเพื่ออาชีพ<br />ระบบคุณภาพสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร<br />เรือนไทยไม้สักหลังเล็ก<br />เรือพื้นบ้านของไทย (เรือสัมปั้น)<br />ลวดคั่นหนังสือแฟนตาซี/พวงกุญแจจากลวด<br />ลูกหอมสมุนไพร<br />วาดภาพการ์ตูนไทยและการ์ตูนภาพล้อ<br />วาดภาพคนเหมือนด้วยสีชอล์ค (Pastel)<br />วาดภาพนกสวยงาม-ผลไม้ดอกไม้และสัตว์ (เทคนิคดินสอสีระบายน้ำ)<br />วาดภาพวิวและดอกไม้ด้วยสีชอล์ค (Pastel)<br />เวสป้าลวดดัด<br />ศิลปะการจัดพานรับน้ำสังข์<br />ศิลปะการจัดพานแหวนหมั้น<br />ศิลปะการพับธนบัตร 2 (ปลาเงิน-ปลาทอง , ปลาตะเพียนเงิน-ปลาตะเพียนทอง)<br />ศิลปะการพับธนบัตร 3 (ดอกบัวสายบุษบง ตูม,แย้ม,บาน ผีเสื้อ , แมงปอล้อลม)<br />ศิลปะการพับธนบัตรแบบใหม่1 (ดอกกุหลาบควีนใหญ่ 10-12 นิ้ว ชุดครุย ฯลฯ)<br />ศิลปะลายรดน้ำ/ลงรักปิดทอง<br />สเต๊ก (Steak) และหมูอบซอส<br />สบู่แฟนซี สบู่สมุนไพร<br />สลักกระจกลงดำปิดทอง<br />สลักชื่อบนหินอ่อนเบื้องต้น<br />สลักลายกระจกโต๊ะและแก้ว ชุด กาแฟด้วยครีม<br />สลัดต่างๆ<br />สามล้อไทยโบราณ และจักรยานจิ๋วจากลวด (พวงกุญแจ)<br />สีน้ำมันเบื้องต้น<br />หล่อกระปุกออมสินปูนปลาสเตอร์<br />หล่อตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ (ระบายสี)<br />หัตถกรรมเป่าแก้ว<br />หินทราย (ตุ๊กตาประดับสวนลอยตัว)<br />หุ่นยนต์ลวดดัด<br />อโรมาเธอราปี ขั้นประยุกต์<br />อโรมาเธอราปี ขั้นพื้นฐาน<br />อาหารกระป๋องเบื้องต้น<br />อาหารว่าง ช่อม่วง ปั้นสิบทอดไส้ไก่<br />อาหารว่าง หรุ่ม เต้าฮวยนมสด<br />ไอศกรีมและผลิตภัณฑ์hobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-20649014804862250912009-12-17T01:15:00.000-08:002009-12-17T01:37:30.817-08:00ตุ๊กตาไม้ โยโย่ ล้มลุก“ตุ๊กตา” ยุคไหน ๆ ก็ยังเป็นของเล่นยอดนิยมของเด็ก ๆ ทั่วไป และก็ได้มีการคิดทำตุ๊กตารูปแบบใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกับตุ๊กตาแปลก ๆ แหวกแนว ด้วยรูปทรงรูปร่าง และสามารถเด้งดึ๋งดุ๊กดิ๊กไปมาได้ ซึ่งเรียกว่า “ตุ๊กตาไม้โยโย่-ตุ๊กตาล้มลุก” และทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลมานำเสนอให้พิจารณากัน…<br /><br />ฉัตรธิดา เพียรดี เป็นเจ้าของผลงานตุ๊กตาไม้ “ฉัตร ดีไซน์” ดำเนิน ธุรกิจนี้มากว่า 2 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ฉัตรธิดาทำธุรกิจค้าไม้ ขายเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน แต่หลัง ๆ เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ธุรกิจที่ทำอยู่เริ่มจะไม่ราบรื่น จึงวางมือ และหันมาจับธุรกิจนำเข้า “ตุ๊กตาไม้” แทน ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าตุ๊กตาไม้นี้ไม่ใช่เป็นแค่ของเล่นอย่างเดียว ตกแต่งบ้านก็ได้ และราคาก็ไม่แพง มันแก้โจทย์ที่ว่าจะทำยังไงให้คนซื้อง่าย ๆ และซื้อเป็นของฝากได้<br /><br /><br />ตุ๊กตาไม้โยโย่ และตุ๊กตาล้มลุก ของฉัตรธิดานำเข้ามาจากประเทศจีน โดยออกแบบไปให้ทางจีนทำตามที่สั่ง ซึ่งจีนจะมีวัสดุ เครื่องไม้เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ค่าแรงก็ไม่แพงมาก ทำให้ต้นทุนในการผลิตไม่สูง ส่วนไม้ที่นำมาทำก็จะใช้ไม้สนของประเทศจีน ส่วนไม้สนของไทยจะแน่น มีน้ำหนักมากกว่า<br /><br />อย่างไรก็ตาม ใครอยากจะลองทำก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีอุปกรณ์ช่างไม้ โดยเฉพาะเครื่องกลึง และพอมีฝีมือในทางช่าง รวมไปถึงมีไม้ที่มีคุณสมบัติเบา เนื้อไม้ไม่แน่นมาก ก็สามารถทำได้<br /><br /><br />วัสดุ ในการทำ “ตุ๊กตาไม้ล้มลุก” หลัก ๆ ประกอบด้วย<br /><br />ไม้สนที่กลึงเป็นรูปทรงแล้ว <br />เส้นเอ็น (ที่ใช้ในการตกปลา) <br />สปริง <br />ด้ายสี <br />ไหมพรมสีต่าง ๆ <br />สีสำหรับเพนท์ <br />แล็คเกอร์สำหรับเคลือบ <br />วิธีทำตุ๊กตาล้มลุก เริ่มจาก ร้อย รูปทรงไม้ที่ต้องการให้เป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ โดยร้อยเข้าไปในเส้นเอ็นให้เข้ารูป, นำเอ็นที่ร้อยเป็นรูปสัตว์มาเชื่อมกับฐานที่วางตัวสัตว์โดยผูกกับสปริงข้าง ใน ฐานด้านล่าง, ลงสีเพนท์ ตกแต่ง ให้สวยงามตามใจชอบ, เคลือบด้วยแล็คเกอร์อีกครั้ง แล้วตกแต่งด้วยไหมพรมและด้ายสีเพื่อความสวยงาม<br /><br />วัสดุในการทำ “ตุ๊กตาไม้โยโย่” หลัก ๆ ประกอบด้วย<br /><br />ไม้สนที่กลึงเป็นรูปทรงแล้ว <br />เชือกป่าน เชือกผ้า เชือกถัก <br />ใบพัดตกแต่ง <br />กาว <br />ลวดสปริง <br />สีสำหรับเพนท์ <br />แล็คเกอร์สำหรับเคลือบ <br />วิธีทำตุ๊กตาไม้โยโย่ เริ่มจาก นำท่อนไม้สนมากลึงให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ (ทรงกลม ทรงรี ทรงเหลี่ยม), ไม้สนที่กลึงได้นั้นจะเป็นชิ้นส่วนของหัว ลำตัว มือ รองเท้า, เจาะรูที่ลำตัวสองด้าน ๆ ละ 2 รู เพื่ออัดกาว สอดเชือก ทำเป็นแขนและขา, นำชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบโดยทากาวเข้ารูปร่าง, เพนท์สีตามต้องการ, ทาแล็คเกอร์ทับเพื่อความเงางาม, เจาะรูที่หัวเพื่อร้อยสปริงให้ยืดหยุ่น และแขวนได้<br /><br />ฉัตรธิดาอธิบายเพิ่มเติมว่า วิธีทำเริ่มจากการกลึงไม้ให้เป็นรูปทรงกลม ทรงรี แล้วนำชิ้นส่วนมาต่อกัน จากนั้นจะเจาะรูเพื่อสอดเชือกให้ดูเป็น แขนขา ซึ่งที่มีวัสดุเชือกเพิ่มขึ้นมาก็เพราะทำให้ตุ๊กตาดูอ่อนช้อยมากขึ้น ดูมีชีวิตชีวาขึ้น และมีสปริงแขวนให้ดูยืดหยุ่น โดยชิ้นส่วนต่อตัวหนึ่งก็จะมีไม้กลึง 3-5 ชิ้น คือส่วนเท้า มือ หัว ตัว คอ และเจาะรูทำสลักในการเชื่อมต่อกัน แล้วใช้กาวติด<br /><br />“เราจะเน้น หนักไปที่เรื่องของการเพนท์ การลงสี สีนั้นจะใช้เป็นสีน้ำทาไม้ธรรมดาทั่วไป อุปกรณ์ก็จะหาได้ง่ายไม่ยุ่งยาก แต่จะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ”<br /><br /><br /><br />สำหรับ “ตุ๊กตาโยโย่” นั้น เป็นแบบใหม่ ทำขายเพราะสามารถสร้าง รอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้เมื่อใครต่อใครพบเห็น ดูตลก น่ารักดี มันดูอิสระ เหมือนปลดปล่อย<br /><br />ส่วน “ตุ๊กตาล้มลุก” จะมีเอ็นที่ใช้ตกปลา มาร้อยเป็นรูปร่างได้ และมีสปริงติดอยู่ที่ฐานข้างใต้ พอกดแล้วตุ๊กตามันก็จะล้มลง พอปล่อยสปริงด้านล่างก็จะยืดตรงตั้งขึ้นเหมือนเดิม<br /><br />ตุ๊กตาไม้ล้มลุก และตุ๊กตาไม้โยโย่ มีประโยชน์ใช้สอยมากกว่าแค่ของเล่น ราคาก็ไม่แพงมาก เหมาะที่จะเป็นของฝาก ของขวัญ ของที่ระลึก ในเทศกาล หรือให้ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ<br /><br />ทุนเบื้องต้นในการทำขาย ก็ตั้งแต่ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดกิจการ ขณะที่ราคาขายอยู่ที่ตัวละ 40 บาทขึ้นไป โดย 40 บาทเป็นราคาขายส่ง ต้นทุนวัสดุจะตกประมาณ 70% ของราคา<br /><br />ใคร สนใจจะติดต่อ ฉัตรธิดา เพียรดี ก็ติดต่อได้ที่ 72/72 หมู่ 1 หมู่บ้านมณีรินทร์ ถนน 345 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี 10200 โทร. 08-6704-3335 ส่วนใครที่พิจารณาจากข้อมูลนี้แล้วได้ไอเดีย อยากจะลองทำตุ๊กตาไม้แปลก ๆ ขายบ้าง ก่อนอื่นก็คงต้องฝึกฝนฝีมือให้ดีเสียก่อน.<br /><br />ขอขอบคุณข้อมูล จาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์hobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-82653782560306445952009-12-17T01:14:00.000-08:002009-12-17T01:37:58.798-08:00ป้ายเรซินปัจจุบันคนรุ่นใหม่หลายต่อหลายคนผันตัวมาทำธุรกิจส่วนตัวกันมาก บางคนที่ทุนหนาก็อาจจะลงทุนทำธุรกิจขนาดใหญ่สักหน่อย แต่ถ้าพอมีทุนอยู่บ้าง อาจเริ่มต้นด้วยการทำธุรกิจเล็กๆ ซึ่งถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี ก็สามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวได้ไม่ยากอะไร<br /><br />เหมือนดังเช่นที่คุณเติ้ล…บรรณวัฒน์ สิริวิกรพัฒน์ คนรุ่นใหม่ที่มีใจรักด้านศิลปะหันมาลงทุนทำธุรกิจป้ายเรซิ่น ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า รู้สึกมีความสุขดี<br /><br />“เริ่ม ทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่ 3 ปีก่อน นี่ก็ย่างเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว ด้วยความที่เราคิดว่าน่าจะมีวัสดุที่ใช้แทนไม้ได้ ซึ่งเรซิ่นนั้นจะว่าไปแล้วถือว่าทนทานกว่าไม้ การหล่อแบบเป็นตัวอักษร ลวดลาย ตุ๊กตา ดอกไม้ และอะไรอื่นๆ ก็หล่อจากต้นแบบปูนพลาสเตอร์ สำหรับในส่วนของตัวป้ายยังคงใช้เป็นป้ายไม้ เหมือนป้ายทั่วไป ต่างกันตรงที่ตัวอักษร และลวดลายที่นำมาติดจะใช้เป็นตัวหล่อเรซิ่นแทนไม้”<br /><br /><br />ด้วย หลักทำงานด้วยใจรัก ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องได้รายได้มากๆ แต่อาศัยความพอเพียง ขายของด้วยราคามิตรภาพ เป็นกันเอง และสินค้าก็มีคุณภาพดี สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ดำเนินธุรกิจอยู่ได้อย่างสบายๆ<br /><br /><br /><br />“ลูกค้า ของเรา มีทั้งคนที่มาสั่งทำป้ายตกแต่งด้วยตัวอักษรเรซิ่น แต่บางคนอาจไม่ได้ซื้อป้าย แต่ซื้อตัวเรซิ่นเพื่อนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นๆ เพราะบางคนอาจนำตัวเรซิ่นที่หล่อเป็นตัวอักษร หรือ ลวดลายต่างๆ ไปใช้ประกอบการตกแต่ง ทำงานฝีมือได้หลากหลายรูปแบบ ราคามีตั้งแต่ 10 บาท ไปจนถึง 40 บาท ซึ่ง ตรงนี้เรายินดีให้ลูกค้ามาเลือกหาเลือกซื้อ ตำหนิติชมได้ และไม่จำเป็นว่าจะต้องสั่งทำป้ายเพียงอย่างเดียว แต่ถ้ามาสั่งทำป้ายก็จะคิดราคาจากจำนวนตัวเรซิ่นที่ใช้ รวมกับค่าป้ายไม้ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ”<br /><br />โดย ปกติแล้วคุณเติ้ลจะไปเปิดหน้าร้านอยู่ที่เมืองทองธานี ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ในเวลาที่มีการจัดงานนิทรรศการต่างๆ ซึ่งลูกค้าประจำจะรู้และตามไปอุดหนุนกัน โดยจะรู้จักกันในชื่อร้าน แฟชั่น โฮมเรซิ่น อาร์ท<br /><br />นับ เป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่ทำงานด้วยหัวใจ มีความเป็นมิตรกับลูกค้า ทั้งยังใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดความสุขในการทำงาน และสามารถยืนหยัดอยู่ได้ใน ภาวะเศรษฐกิจดังเช่นทุกวันนี้<br /><br />เรื่อง/ภาพ Ms.รอบรู้hobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-3453337479363612082009-12-17T01:13:00.001-08:002009-12-17T01:38:18.008-08:00ตัวหนีบการ์ตูนอาชีพงานฝีมือ งานประดิษฐ์ งานแฮนด์เมด นับวันจะมีการแข่งขันกันในตลาดที่สูง ซึ่งยิ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคู่แข่งในตลาดมาก ก็ยิ่งทำให้เจ้าของงานจำเป็นต้อง “หาเอกลักษณ์” ให้กับสินค้าของตนให้เด่นชัดที่สุด จึงจะไม่มีปัญหา เหมือนกับงาน “ตัวหนีบไม้” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” นำเสนอในวันนี้ ที่มีการออกแบบติด “ลายการ์ตูน” น่ารักคิกขุ ใส่สีสันสดใสสวยงามมีแบบฉบับของตัวเอง ก็เป็นจุดขายให้กับสินค้าได้<br /><br />นัยน์ปพร โอสถานนท์ ผู้สร้างสรรค์ออกแบบงานบนแผ่นไม้ ออกมาเป็นลวดลายการ์ตูนที่สวยงาม มีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มานานกว่า 7 ปี ภายใต้ชื่อ “มาร์ยเวิร์ค รันย์เวย์” และเป็นเจ้าของผลงาน “ตัวหนีบไม้ลายการ์ตูน” ที่จะมาเผยวิธีการทำกัน…<br /><br />หลัง จากที่เรียนจบมาทางด้านศิลปะ นัยน์ปพรก็ได้เข้าทำงานอาร์ตที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำงานอยู่ได้ประมาณ 3 ปีก็ต้องเจอกับช่วงเศรฐกิจตกยุคฟองสบู่แตก บวกกับเบื่อที่จะทำงานบริษัทและต้องการที่จะออกมาสร้างสรรค์งานตามแบบของตัว เอง จึงตัดสินใจออกจากงานประจำมาทำงานที่ตัวเองชอบ<br /><br /><br />“ใน ช่วงแรกที่ออกมาทำงานของตัวเองกับแฟนนั้นจะทำเป็นพวกงานเปเปอร์มาร์เช่ ทำอยู่ได้ระยะหนึ่งก็เริ่มที่จะมองหางานตัวอื่นเข้ามาทำเสริมไปด้วย เพราะมองดูแล้วว่าถ้าทำแต่งานเปเปอร์มาร์เช่อย่างเดียวมันเริ่มตัน จนมาเริ่มทำงานไม้ เพราะดูแล้วว่างานไม้เป็นงานที่ทน ใช้งานได้นาน ลูกค้าจะชอบ”<br /><br />การขายสินค้าในระยะแรกที่ผลิตงานออกมา จะนำไปวางแผงขายแบบแบกะดิน ขายตามตลาดนัด นอกจากนั้นยังนำไปเสนอขายตามร้านขายงานกิ๊ฟช็อปที่สวนจตุจักรด้วย<br /><br />“ที่ ต้องขายแบบนี้ในช่วงแรกก็เพราะต้องการที่จะลองเปิดตลาด หาลูกค้า หลังจากที่พอจะมีลูกค้าสั่งงานพอสมควร ก็ย้ายที่ผลิตมาอยู่ที่ จ.นครปฐม เพราะว่าค่าเช่าที่ ค่าใช้จ่ายไม่สูง”<br /><br />“สำหรับคนที่ไม่มีความ รู้ด้านศิลปะ ก็สามารถที่จะฝึกทำงานประดิษฐ์จากไม้ตัวนี้ได้ไม่ยาก เรียนรู้เพียง 1 เดือนก็สามารถทำงานออกขายได้แล้ว เพราะการทำงานชิ้นนี้อยู่ที่ความเชี่ยวชาญจากการฝึกฝน” เจ้าของงานกล่าว<br /><br /><br /><br />สำหรับ วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำ ประกอบด้วย เครื่องฉลุไฟฟ้า, เครื่องขัดสายพาน, ไม้เฟอร์นิเจอร์ (MDF), สีอะคลีลิก , กรวยใส่สีทำจากพลาสติกห่อปก, ยูริเทรน, กาวร้อนติดไม้, ตัวหนีบไม้<br /><br />“เครื่อง ฉลุไฟฟ้านั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 บาท หาซื้อได้ย่านคลองถม แต่ก็สามารถใช้เลื่อยฉลุมือก็ได้ถ้ายังไม่มีทุน ส่วนไม้ที่ต้องใช้ไม้ MDF ก็เพราะว่าเนื้อไม้จะเนียนละเอียดแน่น เวลาทำชิ้นงานจะสวย การเลือกดูไม้ที่เนื้อแน่นดูจากลายไม้จะไม่กระจายออกจากกันมาก และไม้ที่ใช้ก็จะใช้ความหนาตั้งแต่ 3-9 มม. ถ้าเป็นงานชิ้นเล็กอย่างตัวหนีบ ก็ใช้ขนาด 3 มม. แหล่งซื้อไม้ก็อยู่ที่ย่านบางโพหรือภูเขาทอง”<br /><br />ตัวหนีบไม้ ซื้อแบบที่ขายสำเร็จรูปแล้วที่สวนจตุจักร ราคาอยู่ที่ประมาณ 50 ตัว 100 บาท…<br /><br />สี อะคลีลิกที่ใช้ ควรใช้อย่างดีเพราะสีจะสดสวยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน การซื้อสีก็ซื้อเฉพาะแม่สีแล้วนำมาผสมให้ได้สีที่ต้องการได้ ส่วนการที่ต้องใช้กรวยใส่สี ก็เพราะว่าสามารถลากลายเส้นที่เล็กดี เหมาะสำหรับทำงานชิ้นเล็ก การทำกรวยจะใช้แผ่นพลาสติกสำหรับห่อปกหนังสือมาทำการม้วนให้เป็นรูปกรวย ให้ปลายนั้นแน่นสนิท ไม่มีรู จากนั้นก็ใส่สีลงไป ปิดก้นกรวยให้เรียบร้อย ใช้คัตเตอร์ตัดที่ปลายออกให้เกิดรูเล็ก ๆ เท่านี้ก็ได้กรวยที่ใส่สีแล้ว<br /><br />ขั้นตอนการทำ เริ่ม จากการออกแบบรูปตัวการ์ตูนที่ต้องการ วาดแบบลงบนแผ่นไม้ จากนั้นก็นำไปเลื่อยฉลุตามแบบที่วาดไว้ โดยจะใช้เลื่อยฉลุมือหรือเครื่องฉลุไฟฟ้าก็ได้<br /><br />เมื่อ ได้แบบตามที่ต้องการก็นำไปพ่นสีพื้นด้วยสีน้ำอะคลีลิก ปล่อยทิ้งไว้ให้สีแห้งสนิท ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ไม่ควรนำไปตากแดด หรือผึ่งพัดลม เพราะจะทำให้สีพื้นแตก ไม่สวยงาม หลังจากที่สีพื้นแห้งสนิทดีแล้วก็สามารถนำมาลงสีตกแต่งลวดลายหน้าตาของ การ์ตูนต่าง ๆ ตามที่ต้องการได้ทันที<br /><br />หลัง จากที่ตกแต่งลายละเอียดเรียบร้อยก็ทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นก็ทำการพ่นเคลือบด้วยยูริเทรน นำไปผึ่งแดดประมาณ 5 นาที ไม่ควรผึ่งนานกว่านี้เพราะจะทำให้ยูริเทรนไม่แห้งสนิท เมื่อแห้งดีแล้วก็นำไปขัดพื้นหลังให้เรียบด้วยเครื่องขัดสายพาน จากนั้นถึงจะนำไปติดลงบนตัวหนีบที่เพ้นท์สีเตรียมไว้แล้ว ติดด้วยกาวร้อน รอให้กาวแห้งก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน<br /><br />“ตัวหนีบไม้ลายการ์ตูน” ของ นัยน์ปพรนั้นมีอยู่ประมาณ 25 แบบ ขายส่งตั้งแต่ 100 ตัวขึ้นไป ในราคาตัวละ 10 บาท และนอกจากตัวหนีบแล้วยังผลิตสินค้าอื่น ๆ ที่เป็นงานไม้ได้อีกมากมาย อาทิ ตัวแขวนรูปสัตว์ต่าง ๆ เก้าอี้เพ้นท์ลายน่ารัก ป้านติดรั้ว และที่แขวนพวงกุญแจ เป็นต้น<br /><br />ใคร สนใจสินค้างานไม้น่ารัก ๆ ของนัยน์ปพร เข้าไปดูตัวอย่างงานได้ที่ http://www.mw-runway.com/ ซึ่งสามารถสั่งออร์เดอร์รูปแบบตามต้องการเพื่อนำไปจำหน่ายต่อได้ !!hobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-7696289427578452429.post-85945180841449309652009-12-17T01:04:00.000-08:002009-12-17T01:05:23.558-08:00อาชีพเสริมจ้ายินดีต้อนรับสู่แหล่งอาชีพเสริมhobbysiamhttp://www.blogger.com/profile/16536418407306704457noreply@blogger.com