การทำเทียนหอม

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วิธีการทำ เทียนหอม
วัสดุ วัตถุดิบหลักที่สำคัญ ได้แก่ พาราฟิน โพลีเอสเตอร์ น้ำหอม ไส้เทียน และสีเคลือบดอก โดยแหล่ง Supplier ที่สำคัญจะอยู่ในประเทศจีนและไต้หวัน


ขั้นตอนและกระบวนการผลิตเทียนหอม
สำหรับกระบวนการผลิตและขั้นตอนการผลิตสามารถจัดลำดับแผนกของการผลิตได้ดังนี้
1.พาราฟิน 1 กก.
2.บีแวกซ์ 1 ขีด
3.เทียนเหนียว 1 ขีด
4.สีเทียน หรือ สีน้ำมันผง
5.ใส้เทียน
6.หัวน้ำหอมกลิ่นที่ชอบ 15 cc
7.พิมพ์รูปต่างๆ

วิธีทำ เทียนหอม
นำพาราฟินใส่ภาชนะตั้งไฟละลายจากนั้นใส่บีแว็กซ์และเทียนลงไป พอละลายเข้ากันใส่สีเทียน หรือสีน้ำมันผงให้สีอ่อนเข้มตามต้องการตักหยอดใส่พิมพ์เมื่อเทียนเริ่มแข็งตัว ใส่ใส้เทียนที่เตรียมไว้
วิธีทำใส้เทียนให้แข็ง ทำได้โดยนำฝ้ายดิบสำหรับทำใส้เทียนจุ่มลงในพาราฟิน ที่ต้มละลายแล้ว จากนั้นดึงใส้เทียนให้ตึง พอแห้งจะได้ใส้เทียนเป็นเส้นตรง จากนั้นตัดตามยาวตามต้องการ
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/

การทำกรอบรูปเปเปอร์มาเช่

กรอบรูป เปเปอร์มาเช่
รายการนี้คุณขอมาเช่นเดียวกันครับ ต้องการกรอบรูปแบบขอบนูน ผมมีอยู่สองสามแบบ อันนี้เป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ ใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียว มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้ามีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ อาจได้กรอบรูปที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆหรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดครับ เรามาดูกันในรายละเอียดครับ

เครื่องไม้เครื่องมือ
1 มีดคัตเตอร์
2 ไม้บรรทัด
3 ดินสอ
4 แผ่นรองตัด
5 แปลงทาสี
6 กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้
1 กระดาษลูกฟูก
2 สีโปสเตอร์
3 กระดาษหนังสือพิมพ์
4 กรรไกร
5 สีขาวรองพื้น
6 ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่
7 ลวดสำหรับทำที่แขวน
8 วานิชสำหรับเคลือบเงา
9 กาวลาเท็กซ์
10 รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ
1.นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป ใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น ส่วนแบบของกรอบอยู่ ที่นี่ นำแบบไปขยายตามขนาดของรูป
2.พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย
3.นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน
4.นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง
5.นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด
6.นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบดโดยใช้เทคนิคง่ายๆในเรื่อง เปเปอร์มาเช่ ) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ
7.ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้งส่วนที่เป็นกรอบก็เรียบร้อย
ทีนี้เวลานำรูปมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งแล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งก็ะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจ

อ้างอิง THE NEW CRAFT COLLECTION by LORENZ BOOKS
ที่มา : http://www.2-teen.com/community/viewthread.php?tid=20833

การทำยาสระผม

ยาสระผม
สูตรที่ 1
สรรพคุณ
น้ำมันหอมระเหยในผิวมะกรูดมีสรรพคุณบำรุงผม ช่วยให้ผมดกดำเป็นเงางาม ไม่ร่วงง่าย ไม่หงอกเร็ว ขจัดรังแค แก้คันศีรษะ บำรุงเส้นผม
ส่วนผสม
มะกรูด

วิธิทำ
1. เอาผลมะกรูดมาใส่หม้อ ใส่น้ำลงไป 2 แก้วต่อมะกรูด 1 ลูก
2. ตั้งไฟอ่อนๆ ต้มให้เดือดนาน 15-20 นาที
3. ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น ขยำลูกมะกรูดกับน้ำต้ม แล้วกรองเอากากออก
4. เอาน้ำมะกรูดที่ได้ไปสระผม

หมายเหตุ
ถ้าทำในปริมาณมากสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อนำมาใช้ครั้งต่อไป

ที่มา : http://board.dserver.org/w/webdoae/00002234.html

สูตรที่ 2
วิธีทำยาสระผม มะกรูด
นำผลมะกรูดสดๆ มาหั่นเอาแต่เปลือกไม่เอาเนื้อเอาเปลือกที่หั่นนำไปต้มให้สุกใช้ระยะเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วตักออกใส่ถาดทิ้งไว้ให้เย็น นำไปเข้าเครื่องปั่นให้ละเอียด หากปั่นไม่ได้ให้เติมน้ำไปด้วย เสร็จแล้วเทออกใส่ผ้าขาวบางกรองเอาน้ำมะกรูด เมื่อได้แล้วนำไปต้มเคี่ยวในกระทะทองเหลืองด้วยไฟอ่อนๆ จนเห็นว่าข้นแล้วจึงนำกรอกใส่ขวดในขณะที่ยังร้อนให้นำขวดแช่ในน้ำเย็น เป็นการพาสเจอร์ไรท์ฆ่าเชื้อโรคในขวด คุณสมบัติดีมากทำให้ผมดกดำไม่หงอกเร็วกว่ากำหนด
ที่มา http://board.dserver.org/w/webdoae/00002234.html

สูตรที่ 3
การทำยาสระผมจากมะกรูดแบบง่าย ๆ
นำวิธีการทำน้ำยาสระผมจากมะกรูดแบบง่ายๆ มาให้ชมครับ ตอนเด็กๆ เคยเห็นคนสมัยก่อน นำลูกมะกรูดมาเผาไฟ ตอนเผาสังเกตดูจะมีน้ำมันจากผิวมะกรูดออกมา พอสุกได้ที่แล้วก็ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาขยำๆ สระผม... บอกว่าผมเงาดีว่างั้น...
สมัยนี้ถ้าสวนไหนมีมะกรูดเยอะไม่รู้จะเอาไปทำอะไรลองเอามาทำน้ำยาสระผมดูนะครับ การทำก็แบบง่ายๆ ตามรูป คือนำมะกรูดมาหั่น นำไปต้มให้เดือดแล้วทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำไปปั่นๆ แยกกากออก เก็บไว้ในตู้เย็นไว้ใช้สระผมหรือล้างจานได้ครับ...เวลาสระผมถ้าต้องการฟองก็ผสมแชมพูท้องตลาดนิด ๆ ก็ได้ หรือไม่ผสมก็ได้ ผมลองเอาสระผมดูเส้นผมก็เงาดีครับ...หรือจะเอาไปทำน้ำยาล้างจานก็ได้ครับ ขจัดคราบไขมันได้ดี แต่ไม่มีฟอง...ก็ลองๆ ทำดูครับ...เพื่อที่จะได้ประโยชน์จากลูกมะกรูด...ดีกว่าปล่อยๆ ให้หล่นทิ้งนะครับ...
http://www.kaset4you.com/forum/index.php?board=12;action=display;threadid=860


สูตรที่ 4
แชมพูอัญชัญ
เครื่องปรุง
1.ดอกอัญชัญ 1 กำมือ
2.ลาโนลิน 100 กรัม
3.หัวแชมพู 1 กก.
4.ผงฟอง 100 กรัม
5.ผงข้น 150 กรัม
6.หัวน้ำหอม 15 cc
7.น้ำสะอาด 2 กก.

วิธีทำ
นำดอกอัญชัญ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 2 กก. จนเดือด จากนั้นคั้นดอกอัญชัญ นำกากทิ้งไป นำน้ำที่ได้ทิ้งไว้ให้เย็น เติมหัวแชมพู คนจนเข้ากัน เติมลาโนลิน หัวน้ำหอม ผงฟอง และผงข้น ค่อยๆคนจนเข้ากันดีแบ่งใส่ขวดสวยๆ
http://board.dserver.org/w/webdoae/00002373.html

การทำน้ำยาล้างจาน

1.วิธีทำน้ำยาล้างจาน
อุปกรณ์ทำน้ำยาล้างจาน ส่วนผสม
1. น้ำสะอาด 10 ลิตร
2. โซฮาแลบ30 สำหรับลดคราบ 1.5 กก.
3. N-70 สำหรับทำความสะอาด 1 กก.
4. เอ็มอี ทำให้น้ำยาหนืด 160 กรัม
5. แอมโมเนียม คลอไรด์ใส่ให้ข้น 100 กรัม
6. ผงกันบูด 15 กรัม
7. สีผสมอาหารสีที่เราต้องการควรเป็o สีผสมอาหารเพราะจะใช้ล้างจาน กลิ่นมะนาวหรือกลิ่นอะไรก็ได้แต่ที่นิยมจะเป็นกลิ่นมะนาวเพราะถ้าใช้มะนาวล้างจานจะรู้สึกดับกลิ่นคาวได้ดี

วิธีทำ
ผสมโซฮาแลบ30 กับ แอมโมเนียมคลอไรด์ เข้าด้วยกัน คนจนส่วนผสมเป็นสีขาว แล้วจึงเติมเอ็มอี และ เอ็น70 ลงไป ค่อยๆเติมน้ำย้ำค่อยๆเติม กวนช้าๆ จนเข้ากันดี แล้วเติมกลิ่นและสีตามต้องการ ทิ้งไว้จนหมดฟอง(ประมาณ1-2 ชั่วโมง)ถ้ากวนเร็วล่ะฟองฟอดแน่ๆ แบ่งใส่ถุงหรือขวดนะ แต่ว่าถ้าใส่ขวดก็ดีนะใช้สะดวกดี
ที่มา http://www.siaminfobiz.com/forum/index.php?topic=99.0

2.น้ำยาล้างจาน
ส่วนผสม
1. อีเมอร์ 28 ซีที (แชมพูออย) 1 กิโลกรัม
2. โซเดียมลอรี่ซัลเฟต (ผงฟอง) 1 ขีด
3. กรดมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
4. กลิ่นมะนาว 0.5 ออนซ์
5. น้ำ 3 เท่าของแชมพู (5 ลิตร)
6. โซเดียมคลอไรด์ (ผงข้น) 2-3 ขีด (เกลือ 4 ถุงเล็ก)
วิธีทำ
1. นำอีเมอร์ 28 ซีที ผสมกับน้ำหอมคนให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำลงไปคนให้ทั่ว จากนั้นนำผงฟองมาใส่คนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
2. นำกรดมะนาวละลายในน้ำร้อนเล็กน้อย
3. นำกรดมะนาวที่ละลายแล้วเทลงในส่วนผสมที่ 1 ที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน แล้วจึงนำเอาผงข้นมาใส่ (ค่อยๆ ใส่ทีละน้อยพอประมาณเพื่อให้ข้นขึ้น)


ที่มา : http://www.waluka.com/salary/s6.html

วิธีประหยัดน้ำยาล้างจาน
เรามีวิธีประหยัดน้ำยาล้างจานที่แสนจะง่ายมาบอก แค่เวลาที่คุณซื้อน้ำยาล้างจานขวดใหม่มา แล้วนำเอาขวดเก่าที่หมดไปมา เติมน้ำยาขวดใหม่ประมาณ10 ซีซี แล้วเติมน้ำก็อกให้เต็มขวด เขย่าให้เข้ากัน แค่นี้ก็มีน้ำยาล้างจานเก็บไว้ใช้เป็นเดือนๆ เลยค่ะ แถมคุณภาพยังคงเต็มเปี่ยมอยู่เหมือนเดิมเลยค่ะ
ที่มา http://www.bkkmenu.com/tips/html/637.html

การทำสบู่

การทำสบู่
ส่วนผสม

หัวเชื้อ N70 จำนวน 100 กรัม
โซเดียมคลอไรด์ 5 กรัม
KD 10 กรัม
น้ำสะอาด 850 กรัม
สารกันบูด 5 กรัม
สี ตามต้องการ
น้ำหอม เลือกกลิ่นตามต้องการ



วิธีทำ
ผสมหัวเชื้อ N70 และ โซเดียมคลอไรด์ เข้าด้วยกัน คนจนส่วนผสมเข้ากันดี แล้วจึงเติมเคดี
ค่อยๆเติมน้ำ คนช้าๆไปทางเดียวกัน(จะได้ไม่เกิดฟองมากเกิน) จนเข้ากันดี จึงเติมสารกันบูด แล้วเติม
น้ำหอมและสี ทิ้งไว้จนหมดฟอง(ประมาณ1-2 ชั่วโมง) จึงนำไปบรรจุภาชนะ ตามต้องการ
http://bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?user=greenstock&board=8&id=26&c=1&order=numtopic




วิธีการทำสบู่
เป็นที่ทราบกันดีว่าสบู่ช่วยรักษาความสะอาดให้ร่างกาย และสิ่ง อื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี ความสะอาดช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค การทำสบู่ใช้เองภายในบ้านสามารถทำได้โดยอาศัยส่วนประกอบที่สำคัญคือ ไขมันและน้ำด่าง
วิธีการทำสบู่ มีอยู่ 2 วิธีคือ
วิธีที่ 1 ใช้น้ำด่างสำเร็จรูปในท้องตลาด หากสามารถหาซื้อน้ำด่าง สำเร็จรูปได้ง่ายในท้องตลาด
วิธีที่ 2 ใช้น้ำด่างจากการชะล้างขี้เถ้า วิธีนี้ได้แบบอย่างมาจากผู้อพยพไปตั้งถิ่นฐานในทวีปอเมริกาเหนือรุ่นแรก ๆ

ส่วนผสมของสบู่
1. ไขมันและน้ำมัน อาจเป็นไขมันสัตว์หรือน้ำมันพืชก็ได้ แต่น้ำมันจากแร่ธาตุใช้ไม่ได้ ไขมันสัตว์ เช่น ไขวัว กระบือ น้ำมันหมู ฯลฯ ไขมัน พืช เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก ข้าวโพด เมล็ดฝ้าย ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และน้ำมันละหุ่ง ฯลฯ
2. น้ำด่าง น้ำด่างสำเร็จรูปที่ขายในท้องตลาดเรียกว่า โซดาไฟ หรือผลึกโซดา หรือผลึกโซเดียมไฮดรอกไซด์ ราคาถูกมีขายทั่วไป หรือน้ำ ด่างที่ได้จากการชะล้างขี้เถ้าเรียกว่า โพแทช
3. บอแร็กซ์ สารบอแร็กซ์นี้ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ แต่สารนี้ช่วยให้ สบู่มีสีสันสวยงามและทำให้เกิดฟองมาก มีจำหน่ายตามร้านขายยา หรือร้านขายของชำ มีชื่อเรียกว่า ผงกรอบ หรือผงนิ่ม ส่วนใหญ่บรรจุในถุง พลาสติก
4. น้ำหอม น้ำหอมก็ไม่จำเป็นต้องใช้เช่นกัน แต่ถ้าใช้จะทำให้สบู่ มีกลิ่นดีขึ้น ถ้าไขมันที่ใช้ทำสบู่นั้นเหม็นอับ ใช้น้ำมะนาวหรือน้ำมะกรูดผสม จะช่วยให้กลิ่นหอมยิ่งขึ้นและไม่เน่า
5. น้ำ น้ำที่ใช้ทำสบู่ได้ดีต้องเป็นน้ำอ่อน ถ้าเป็นน้ำกระด้างจะทำ ให้สบู่ไม่เกิดฟอง จึงขจัดความสกปรกไม่ได้ ควรทำให้น้ำนั้นหายกระด้าง เสียก่อน โดยเติมด่างประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) ต่อน้ำกระด้าง 1 แกลลอน (3.8 ลิตร) คนให้เข้ากัน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 3-4 วัน จึงเท เอาส่วนบนออกมา ส่วนน้ำและตะกอนที่ก้นภาชนะเททิ้งไปได้ น้ำที่เหมาะ ในการทำสบู่มากที่สุดคือน้ำฝน

การทำสบู่จากน้ำด่างสำเร็จรูปในท้องตลาด
อุปกรณ์
- ถ้วย ถังหรือหม้อที่ทำด้วยเหล็กหรือหม้อดินก็ได้ แต่ อย่าใช้หม้ออะลูมิเนียม เพราะด่างจะกัด
- ถ้วยตวงที่ทำด้วยแก้วหรือกระเบื้องเคลือบ
- ช้อนกระเบื้องเคลือบหรือช้อนไม้ และใบพายหรือกิ่งไม้ ขนาดเล็กสำหรับคน
- แบบพิมพ์สบู่อาจจะทำด้วยแผ่นไม้หรือกระดาษแข็งก็ ได้ ขนาดของแบบพิมพ์จะใช้กว้างหรือยาวตามต้อง การ แต่ส่วนลึกควรจะเป็น 2-3 นิ้ว ดีที่สุด
- ผ้าฝ้ายหรือกระดาษมันสำหรับรองรับสบู่ในแบบพิมพ์ โดยตัดผ้าหรือกระดาษออกเป็น 2 ชิ้น ชิ้นหนึ่งกว้าง กว่าเล็กน้อย อีกชิ้นหนึ่งยาวกว่าแบบเล็กน้อย ใช้ สำหรับช่วยยกสบู่ออกจากแบบพิมพ์ง่ายขึ้น
อัตราส่วนของส่วนผสมที่ใช้ในการทำสบู่ได้ประมาณ 4 กิโลกรัม

น้ำมันหรือไขแข็งสะอาด 3 ลิตร หรือ 2.75 กก.
บอแร็กซ์ 57 มิลลิลิตร (1/4 ถ้วย)
ผลึกโซดาหรือน้ำด่าง 370 กรัม
น้ำ 1.2 ลิตร
น้ำหอม (เลือกกลิ่นตามต้องการ) 1-4 ช้อนชา

ขั้นตอนในการทำสบู่
1. เตรียมไขมัน ถ้าไขมันไม่สะอาด ควรทำให้สะอาดเสียก่อน โดยเอาไปต้มกับน้ำในปริมาณที่เท่ากันในกาต้มน้ำ เมื่อเดือดแล้วเทส่วน ผสมผ่านผ้าบาง ๆ หรือตะแกรงสำหรับกรองลงในภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วเติมน้ำเย็นลงไป 1 ส่วนต่อส่วนผสม 4 ส่วน ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นโดยไม่ ต้องคน ถ้าจะให้สะอาดยิ่งขึ้นควรใส่มันเทศที่หั่นเป็นแว่นลงไปก่อน ที่จะต้มส่วนผสม
2. เตรียมน้ำด่างผสม ทำได้โดย ตวงน้ำตามปริมาณที่ต้องการ แล้วค่อย ๆ เติมด่าง (ผลึก โซดา) ที่จะใช้ลงไปในน้ำ ไม่ควรเติมน้ำลงไปในด่าง เพราะจะเกิดความร้อน และกระเด็นทำให้เปรอะเปื้อนได้ แล้วปล่อยให้น้ำด่างผสมนี้เย็นลงจนปกติ
3. ค่อย ๆ เติมน้ำด่างผสมนี้ลงไปในไขมันที่ละลายแล้วในข้อ 1 ขณะที่เติมนี้ต้องคนส่วนผสมทั้งหมดนี้อย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอในทิศทาง เดียวกัน จนกว่าส่วนผสมจะข้นตามปกติ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ช่วงนี้ เติมน้ำหอมที่เตรียมไว้ลงไปได้ หลังจากนั้นปล่อยไว้ 15-20 นาที จึงค่อย คนหนึ่งครั้ง ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง เมื่อส่วนผสมเหนียวดีแล้วจึงเทลงในแบบ พิมพ์ ซึ่งมีผ้าหรือกระดาษมันรองอยู่
4. หาฝาครอบแบบพิมพ์ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน ไม่ควรมีการ เคลื่อนย้ายหรือถูกกระทบกระเทือน สบู่จะยึดกันแน่นสามารถเอาออกจาก แบบพิมพ์ได้
5. เมื่อสบู่แข็งตัวดีแล้ว นำออกจากแบบพิมพ์ แล้วใช้เส้นลวดหรือ เส้นเชือกตัดสบู่ออกเป็นชิ้น ๆ ตามขนาดที่ต้องการ แล้วนำไปวางเรียงไว้ให้ อยู่ในลักษณะที่ลมพัดผ่านได้ทั่วถึงในบริเวณที่อุ่นและแห้ง ปล่อยไว้ 2-4 สัปดาห์ ก็นำไปใช้ได้

การทดสอบว่าสบู่จะดีหรือไม่
- สบู่ที่ดีควรจะแข็ง สีขาว สะอาด กลิ่นดีและไม่มีรส สามารถขูด เนื้อสบู่ออกเป็นแผ่นโค้ง ๆ ได้
- ไม่มันหรือลื่นจนเกินไป เมื่อใช้ลิ้นแตะดูไม่หยาบหรือสาก
การปรับปรุงสบู่ให้ดีขึ้น
ถ้าสบู่ที่ผ่านขั้นตอนตามเวลาที่ทำทุกช่วงแล้ว แต่ยังมีส่วนผสมบาง ส่วนไม่แข็งตัวหรือแยกกันอยู่ หรือไม่ดีเพราะสาเหตุใดก็ตาม อาจแก้ไขให้ดี ขึ้นดังนี้
- ตัดสบู่ออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในหม้อที่มีน้ำบรรจุอยู่ 2.8 ลิตร พร้อมทั้งเทส่วนที่เป็นของเหลวที่เหลืออยู่ในแบบพิมพ์ลงไปด้วย
- นำไปต้มนานประมาณ10 นาที อาจเติมน้ำมะนาวหรือน้ำมัน อื่น ๆ ที่มีกลิ่นหอมลงไปในส่วนผสมประมาณ 2 ช้อนชา (ถ้ายังไม่ได้เติม)ต่อจากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในแบบพิมพ์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ปล่อยไว้ 2 อัน แล้วดำเนินการตามที่กล่าวมาแล้ว

การทำสบู่จากน้ำด่างที่ได้จากขี้เถ้า
เริ่มต้นด้วยการทำน้ำด่างขึ้นเองจากขี้เถ้า
อุปกรณ์
1. เครื่องมือสำหรับการชะล้างน้ำด่าง ประกอบด้วยก้อนหิน ขนาดย่อม ๆ หลายก้อน
- แผ่นหินราบมีร่องน้ำให้ไหลได้
- ถังไม้ขนาดจุ 19 ลิตร มีรูเล็ก ๆ หลายรูติดอยู่ก้นถัง
- ภาชนะรองน้ำด่าง ไม่ควรใช้ภาชนะที่ทำด้วยอะลูมิเนียม เพราะน้ำด่างจะกัด
- กิ่งไม้เล็ก ๆ และฟาง
- ขี้เถ้า 19 ลิตร ซึ่งได้จากการเผาไหม้ทุกชนิด ขี้เถ้าจาก ไม้เนื้อแข็งจะใช้ทำน้ำด่างได้ดีที่สุด สำหรับชนบทแถบ ชายทะเล ขี้เถ้าจากการเผาสาหร่ายทะเลใช้ได้ดีมาก เพราะมีธาตุโซเดียมทำให้สบู่แข็งตัวได้ดี
- น้ำอ่อนปริมาณ 7.6 ลิตร

2. วิธีการชะล้างขี้เถ้าทำน้ำด่าง
- ตั้งอุปกรณ์ดังแสดงในรูป โดยที่ก้นของถังทำเป็นที่กรอง ขี้เถ้า ใช้กิ่งไม้ไข้วกัน 2 กิ่ง เรียงเป็นแถว แล้วเอาฟางวางลงบนกิ่ง
- ใส่ขี้เถ้าลงในถัง แล้วเทน้ำอุ่นลงในถังเพื่อให้ขี้เถ้าเปียก และเหนียว เกลี่ยให้เกิดหลุมตรงกลาง แล้วค่อย ๆ เทน้ำส่วนที่เหลือลงใน หลุมนั้น ปล่อยให้น้ำซึมแล้วเติมน้ำอีก น้ำด่างสีน้ำตาลจะไหลลงสู่ส่วนล่าง ของถัง นานประมาณ 1 ชม. น้ำด่างที่ได้จะมีปริมาณ 1.8 ลิตร ถ้าน้ำด่างที่ มีความเข้มข้นดีแล้ว ทดสอบได้โดยเอาไข่ไก่หรือมันฝรั่งใส่ลงไป ไข่หรือมัน จะลอยได้ หรือถ้าจุ่มขนไก่ลงไป น้ำด่างจะเกาะติดแต่ไม่กัดขนไก่ให้หลุด ถ้าน้ำด่างอ่อนไป ควรเทกลับคืนถังอีกครั้ง หรือเคี่ยวให้ข้นด้วยการต้ม
- ส่วนการทำสบู่ในขั้นต่อไปนั้นดำเนินการเช่นเดียวกันกับ วิธีแรก

ข้อควรระวังในการใช้น้ำด่าง
น้ำด่างนี้เป็นพิษเพราะกัดผิวหนังและทำให้เกิดแผลร้ายแรงได้ ฉะนั้น ไม่ควรให้ถูกผิวหนัง ถ้าถูกต้องรีบล้างทันทีด้วยน้ำเปล่า แล้วล้างด้วย น้ำส้มอีกครั้งหนึ่ง
ถ้ากลืนน้ำด่างลงไป ให้รีบดื่มน้ำส้ม น้ำมะนาวหรือมะกรูดตามลงไป ให้มาก ๆ แล้วรีบไปพบแพทย์ ดังนั้นควรเก็บน้ำด่างให้พ้นมือเด็ก

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจนะคับ

การทดสอบว่าสบู่จะดีหรือไม่
- สบู่ที่ดีควรจะแข็ง สีขาว สะอาด กลิ่นดีและไม่มีรส สามารถขูด เนื้อสบู่ออกเป็นแผ่นโค้ง ๆ ได้
- ไม่มันหรือลื่นจนเกินไป เมื่อใช้ลิ้นแตะดูไม่หยาบหรือสาก
การปรับปรุงสบู่ให้ดีขึ้น
ถ้าสบู่ที่ผ่านขั้นตอนตามเวลาที่ทำทุกช่วงแล้ว แต่ยังมีส่วนผสมบาง ส่วนไม่แข็งตัวหรือแยกกันอยู่ หรือไม่ดีเพราะสาเหตุใดก็ตาม อาจแก้ไขให้ดี ขึ้นดังนี้
- ตัดสบู่ออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในหม้อที่มีน้ำบรรจุอยู่ 2.8 ลิตร พร้อมทั้งเทส่วนที่เป็นของเหลวที่เหลืออยู่ในแบบพิมพ์ลงไปด้วย
- นำไปต้มนานประมาณ10 นาที อาจเติมน้ำมะนาวหรือน้ำมัน อื่น ๆ ที่มีกลิ่นหอมลงไปในส่วนผสมประมาณ 2 ช้อนชา (ถ้ายังไม่ได้เติม)ต่อจากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในแบบพิมพ์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ปล่อยไว้ 2 อัน แล้วดำเนินการตามที่กล่าวมาแล้ว
การทำสบู่จากน้ำด่างที่ได้จากขี้เถ้า
เริ่มต้นด้วยการทำน้ำด่างขึ้นเองจากขี้เถ้า
อุปกรณ์
1. เครื่องมือสำหรับการชะล้างน้ำด่าง ประกอบด้วยก้อนหิน ขนาดย่อม ๆ หลายก้อน
- แผ่นหินราบมีร่องน้ำให้ไหลได้
- ถังไม้ขนาดจุ 19 ลิตร มีรูเล็ก ๆ หลายรูติดอยู่ก้นถัง
- ภาชนะรองน้ำด่าง ไม่ควรใช้ภาชนะที่ทำด้วยอะลูมิเนียม เพราะน้ำด่างจะกัด
- กิ่งไม้เล็ก ๆ และฟาง
- ขี้เถ้า 19 ลิตร ซึ่งได้จากการเผาไหม้ทุกชนิด ขี้เถ้าจาก ไม้เนื้อแข็งจะใช้ทำน้ำด่างได้ดีที่สุด สำหรับชนบทแถบ ชายทะเล ขี้เถ้าจากการเผาสาหร่ายทะเลใช้ได้ดีมาก เพราะมีธาตุโซเดียมทำให้สบู่แข็งตัวได้ดี
- น้ำอ่อนปริมาณ 7.6 ลิตร
2. วิธีการชะล้างขี้เถ้าทำน้ำด่าง
- ตั้งอุปกรณ์ดังแสดงในรูป โดยที่ก้นของถังทำเป็นที่กรอง ขี้เถ้า ใช้กิ่งไม้ไข้วกัน 2 กิ่ง เรียงเป็นแถว แล้วเอาฟางวางลงบนกิ่ง

- ใส่ขี้เถ้าลงในถัง แล้วเทน้ำอุ่นลงในถังเพื่อให้ขี้เถ้าเปียก และเหนียว เกลี่ยให้เกิดหลุมตรงกลาง แล้วค่อย ๆ เทน้ำส่วนที่เหลือลงใน หลุมนั้น ปล่อยให้น้ำซึมแล้วเติมน้ำอีก น้ำด่างสีน้ำตาลจะไหลลงสู่ส่วนล่าง ของถัง นานประมาณ 1 ชม. น้ำด่างที่ได้จะมีปริมาณ 1.8 ลิตร ถ้าน้ำด่างที่ มีความเข้มข้นดีแล้ว ทดสอบได้โดยเอาไข่ไก่หรือมันฝรั่งใส่ลงไป ไข่หรือมัน จะลอยได้ หรือถ้าจุ่มขนไก่ลงไป น้ำด่างจะเกาะติดแต่ไม่กัดขนไก่ให้หลุด ถ้าน้ำด่างอ่อนไป ควรเทกลับคืนถังอีกครั้ง หรือเคี่ยวให้ข้นด้วยการต้ม
- ส่วนการทำสบู่ในขั้นต่อไปนั้นดำเนินการเช่นเดียวกันกับ วิธีแรก

ข้อควรระวังในการใช้น้ำด่าง
น้ำด่างนี้เป็นพิษเพราะกัดผิวหนังและทำให้เกิดแผลร้ายแรงได้ ฉะนั้น ไม่ควรให้ถูกผิวหนัง ถ้าถูกต้องรีบล้างทันทีด้วยน้ำเปล่า แล้วล้างด้วย น้ำส้มอีกครั้งหนึ่ง
ถ้ากลืนน้ำด่างลงไป ให้รีบดื่มน้ำส้ม น้ำมะนาวหรือมะกรูดตามลงไป ให้มาก ๆ แล้วรีบไปพบแพทย์ ดังนั้นควรเก็บน้ำด่างให้พ้นมือเด็ก

กรอบรูปวิทยาศาสตร์

เงินลงทุน :
ประมาณ 30,000 บาท แยกเป็นอุปกรณ์หลัก ๆ ประกอบไปด้วย
ไม้อัด หรือไม้ MDF ความหนา 9 มิลลิเมตร ราคา 210 บาท ต่อแผ่น ขนาด 3 มิลลิเมตร ราคา 90 บาท กระดาษลายไม้มีหลายแบบหลายราคา เฉลี่ยแล้ว ตกเมตรละ 20 กว่าบาท หรือ อาจใช้พีวีซีลายไม้ซึ่งจะสวยงามและคงทนกว่า ราคาประมาณ 40 บาท น้ำยาโพลีเอสสเตอร์เรซิ่น กิโลกรันละ 70 บาท ตัวเร่งปฏิกริยา กิโลกรัมละ 230 บาท ฟิล์มเคลือบมีหลายแบบหลายราคา ทั้งบบเงาและแบบด้าน เฉลี่ยแล้วประมาณ 60-70 บาท ไปจนถึง 100 กว่าบาท ต่อเมตร นอกนั้นก็เป็นพวกวัตถุดิบเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ เช่นกระดาษอัด กระดาษลายหน้า พีวีซีข้าง ไม้บรรทัดเหล็ก คัดเตอร์ กระดาษกาว กระดาษลาย กระดาษลายหลัง ขาตั้ง กระจก หูแขวน รูปภาพ ต้อตติดขาตั้งและหูแขวน ไขควง ดิ้นทอง กาวลาเท็กซ์ เลื่อยไฟฟัา ตะไบแบน(เครื่องเจียร์) ลูกกลิ้ง เลื่อยไฟฟ้า น้ำยากันซึม ทินเนอร์ น้ำมันสน ถ้ายพลาสติก สว่านเจาะรู ปากกาเคมีลบไม่ได้(ตราม้า) ไม่ไอศครีม กาวน้ำ หรือสเปรย์แล็คเกอร์

แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ :
1. ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์
2. องค์การค้าคุรุสภา

รายได้: จากราคากรอบรูปวิทยาศาสาตร์ ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพ หากเป็นภาพเล็ก เช่น 8*10 นิ้ว ราคาจะตกประมาณ 130 บาท แบบเคลือบเงาราคา 160 บาท แบบเคลือบด้าน ซึ่งจะมีลวดลายสวยกว่า หากเป็นภาพขนาด 20*30 นิ้ว แบบเคลือบเงาราคาจะตกประมาณ 700 บาท และ 800 บาท แต่ถ้าหากเป็นกรอบ ลอย คือเป็นรูปลอย ๆ ไม่มีเนื้อไม้ ราคากก็จะต่ำลงหน่อย ราคาที่ว่ามานี้ เมื่อหักเปอร์เซ็นต์ให้ร้านถ่ายภาพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนผู้รับงานให้เราเมื่อหักค่าวัสดุ ค่าขนส่ง ค่าไฟ จะเหลือกำไรสุธิประมาณ 20-30% สมมุติว่าเราหางานขนาด 8*10 นิ้ว ได้วันละ 20 ชิ้น จะมีกำไรวันละ 500 บาท เดือนหนึ่งก็ตก 10,000 กว่าบาท ซึ่งการหางานวัน วันละแค่ 20 ชิ้น ผู้ที่มีประสบการณ์ หรือคนที่ตั้งใจทำอย่างจริงจังไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรอะไรเลย

อุปกรณ์ :
กระดาษอัด กระดาษลายหน้า พีวีซีข้าง ไม้บรรทัดเหล็ก คัดเตอร์ กระดาษกาว กระดาษลายหลัง ขาตั้ง กระจก หูแขวน รูปภาพ น้อตติดขาตั้งและหูแขวน ไขควง ดิ้นทอง กาวลาเท็กซ์ เลื่อยไฟฟ้า ตะไบแบน(เครื่องเจียร์) ลูกกลิ้ง น้ำยากันซึม กระดาษทราย ทินเนอร์ น้ำมันสน ถ้วยพลาสติก สว่านเจาะรู ปากกาเคมีลบไม่ได้(ตราม้า) ไม้ไอศครีม กาวน้ำหรือสเปรย์แล็คเกอร์ น้ำยาตัวเร่ง
วิธีทำ :
1. ติดกระดาษลายกับไม้ ใช้ลูกกลิ้งกลิ้งให้เรียบ พอแห้งใช้คัดเตอร์ให้ชิดกับไม้มากที่สุด จากนั้นนำรูปภาพไปวัดขนาดให้อยู่กลางแผ่นไม้แล้วทำจุดกำกับ
2. นำรูปภาพไปทากาว วางลงบนไม้ตามจุดที่กำกับไว้ใช้ลูกกลิ้งกลิ้งภาพให้เรียบแน่น
3. ติดดิ้นทองรอบรูปภาพ
4. ติดกระดาษกาวทั้ง 4 ด้านของไม้ ส่วนที่เลยให้พับเก็บไว้ด้านหลัง
5. ผสมน้ำยาเรซิน ในอัตตราส่วนเรซิน 1 แก้วต่อตัวเร่ง 1 ช้อน แล้วใช้ไม้คน
6. เทน้ำยาเรซินลงตรงกลางรูปภาพ แล้วใช้แผ่นฟิล์มไมร่าวางทับบนน้ำยา
7. ใช้ลูกกลิ้งลากกลางภาพไปทั้ง 4 มุม
8. คว่ำภาพทิ้งไว้ให้แห้ง ดึงฟิล์มไมร่าออก แล้วตกแต่งขอบให้เรียบ

สถาบันฝึกอบรม :
1. สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานกลาง 39 ซอยอินทามาระ 22 ถนสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 6918437-8
2. สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 50 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 5793025, 57900113
3. งานฝึกอบรมและบริการ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมรายสาขา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 กล้วยน้ำไท เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 3922486, 3810025-32 ต่อ 21

ตลาด/แหล่งจำหน่าย :
ร้านถ่ายรูปทั่วไป ร้านทำกรอบรูป บริษัท ห้างร้าน หรือตามสถาบันศึกษา

แหล่งเงินทุน :
1. กรมประชาสงเคราะห์ ถนนกรุงเกษม กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 2813199
2. มูลนิธิทิสโก้เพื่อการกุศล เลขที่ 48/11 อาคารทิสโก้ทาวเวอร์ ชั้น 5 ถนนสาธร เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 6380555
3. กองสังคนส่งเคราะห์ สำนักสวัสดิการสังคม กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 2460284

ที่มา : http://www.rvsd.ac.th/jobs/capital/ocupations/44.html

รายชื่ออาชีพเสริมที่น่าสนใจ

กระเป๋าราตรี-กระเป๋าสารพัดประโยชน์-รองเท้าแตะใส่อยู่บ้าน
ก๋วยเตี๋ยวชมสวน-ก๋วยเตี๋ยวหลอด
กะหรี่พัฟ ปั้นสิบทอด
การเขียนภาพซับสีปิดทอง (ลายคำล้านนา)
การจัดดอกไม้แบบตะวันตก
การจัดดอกไม้แบบตะวันออก
การจัดดอกไม้แบบอิเคบาน่า
การจัดดอกไม้เป็นของขวัญ
การจัดดอกไม้เป็นช่อมือถือและช่อติดเสื้อ
การจัดดอกไม้พื้นฐานและประยุกต์ในการประกอบอาชีพ
การจัดดอกไม้สดแบบสากลเพื่อธุรกิจ
การจัดสวนถาดแบบประยุกต์
การจัดสวนน้ำพุ น้ำล้น
การเจียระไนตนเองเพื่อดึงศักยภาพมาใช้
การใช้วัตถุเจือปนอาหารในอุตสาหกรรมอาหาร
การแต่งหน้าเค้ก
การถักโครเชต์ (Crocheting) ขั้นพื้นฐาน
การถักเชือกร้อยลูกปัด (ดินเนรมิต) ชุด สร้อยคอและสร้อยข้อมือ
การถักแท็ต (Tatting) ขั้นพื้นฐาน
การทาบกิ่ง ต่อกิ่ง ติดตาพันธุ์ไม้ต่าง ๆ
การทำกรอบรูปไม้เส้นเพื่อทำใช้เองและเปิดกิจการแบบครบวงจร
การทำขนมเค้กเพื่ออาชีพ
การทำขนมปังพื้นฐาน
การทำขนมเปี๊ยะ-โมจิ
การทำคุกกี้เพื่ออาชีพ
การทำเครื่องแขวนไทยจากดอกไม้ประดิษฐ์เป็นของขวัญ
การทำโคมไฟสนามประดับสวน (สามารถพ่นน้ำได้)
การทำแชมพูสมุนไพรธรรมชาติ
การทำเตาฟืนมีปล่องประสิทธิภาพสูงขายเป็นอาชีพเสริม
การทำเตาเอนกประสงค์ประสิทธิภาพสูงขายเป็นอาชีพเสริม
การทำเทียนหอมขนมไทย
การทำน้ำยาทำความสะอาด
การทำบายศรีปากชาม
การทำบุหงารำไปแบบสดและแบบแห้ง
การทำปั้นขลิบนึ่งไส้ปลา และการทำปั้นขลิบทอด
การทำผ้าบาติกและบาติกจากน้ำเต้าหู้
การทำแผ่นปูทางเดินประดับสวน
การทำฝอยทอง และสังขยา
การทำพายชนิดต่าง ๆ
การทำไฟเบอร์กล๊าส เบื้องต้น
การทำภาพนูนลงบนไฟเบอร์กล๊าส
การทำภูเขาน้ำไหลแบบเลี้ยงปลาได้
การทำยาหม่องชนิดต่าง ๆ และยาดมส้มโอมือ
การทำลอดช่องไทย ลอดช่องสิงคโปร์
การทำลูกชุบ
การทำลูกประคบสมุนไพรสด
การทำโลชั่นธรรมชาติผสมสารสมุนไพรสกัด
การทำวุ้นต่างๆ (4 ชนิด)
การทำหัวโขนเล็ก
การนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ (ประยุกต์แบบไทย)
การนวดหน้าและกดจุดเพื่อสุขภาพ
การบุกล่องผ้าไหมและลวดลายผ้า
การประดิษฐ์ "ดอกฟาแลนด์นอปซิส" พร้อมต้นจากดินญี่ปุ่น
การประดิษฐ์โคมไฟรูปแบบถ้ำจำลอง
การประดิษฐ์ดอกกุหลาบนาม "ควีนส์สิริกิติ์" จากดินญี่ปุ่น
การประดิษฐ์ต้นไม้มงคลจากลวด (ส้มทองมงคล)
การประดิษฐ์ต้นไม้มงคลจากลวดประดับหินหยกแท้
การปลูกต้นไม้เกาะหิน (บอนไซเกาะหิน)
การปลูกผักเพื่อบริโภค (แนวเกษตรธรรมชาติ)
การปลูกพืชไร้ดิน
การปลูกไม้ดอกกระถาง
การปักดิ้นเงินดิ้นทองด้วยมือขั้นพื้นฐาน (Metal Work)
การปักนูนมีมิติ (Stumpwork)
การปักผ้าด้วยมือเบื้องต้น (ปักไหม)
การปักพุ่มนมัสการจากดอกไม้สด
การปักริบบิ้นผ้าไหม (Silk Ribbon) ด้วยมือเบื้องต้น
การปักเลื่อม-ลูกปัด แนวแฟชั่น
การปักเลื่อม-ลูกปัดขั้นประยุกต์
การปักเลื่อม-ลูกปัดขั้นพื้นฐาน
การปักสม๊อก (Smocking) ขั้นพื้นฐาน
การปั้นตุ๊กตาการ์ตูนติดกระจกส่องหน้า
การปั้นตุ๊กตาเด็กไทยติดกรอบรูป (ขนาด 8X10 นิ้ว)
การปั้นตุ๊กตาสัตว์-ตุ๊กตาญี่ปุ่น จากกระดาษหนังสือพิมพ์
การปั้นผงไม้จันทน์ (ลายเครือเถาว์)
การปั้นวิถีชิวิตคนไทย ชุดเรือนแพ
การปิดทองพระพุทธรูปบูชา
การผลิตกุนเชียง
การผลิตซีอิ๊ว เต้าเจี้ยว การหมักไข่เค็มจากกากซีอิ๊ว/เต้าฮวย ปาท่องโก๋และแปรรูป
การผลิตนมถั่วเหลือง เต้าหู้ เต้าฮวยฟรุตสลัด
การผลิตน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์
การผลิตไส้กรอกเยอรมัน
การผลิตไส้กรอกอีสาน แหนมซี่โครงหมู และแหนมหูหมู
การผลิตหมูแผ่นหมูหยอง
การผลิตหมูยอ
การพับผ้าเช็ดหน้าเป็นรูปสัตว์และดอกไม้
การพับและจัดดอกบัว
การพิมพ์ซิลค์สกรีน 4 สี
การเพาะเห็ดในถุงพลาสติก
การเพาะเห็ดฟางกองเตี้ย
การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อย่อยสลายอินทรีย์วัตถุ
การวาดภาพคนเหมือนด้วยสีคาร์บอนด์ (สีฝุ่นดำ) เบื้องต้น
การวาดภาพทิวทัศน์-ดอกไม้ ตามลักษณะ IMPRESSIONISM ด้วยสีอะครีลิค
การวาดภาพสีน้ำขั้นสูง
การวาดภาพสีน้ำเบื้องต้น
การออกแบบลวดลายไทยเบื้องต้น
แกะสลักกล่องไข่วิจิตร
ขนมเค้กนึ่งหน้าแตกสูตรไม่ใส่ไข่ (เจ)
ขนมชั้นดอกกุหลาบ
ขนมดอกอัญชัญ ขนมถ้วยตะไล
ขนมถั่วแปบเสวย-ขนมเหนียว
ขนมไทย อาลัวดอกกุหลาบ
ข้าวเหนียวมูน (5 ชนิด)
คุกกี้ธัญพืช
งานถักตาข่ายดอกไม้แห้งแบบต่าง ๆ
งานใบตองสด-พานขันหมาก
งานมาลัยดอกไม้สดของชำร่วย
จิตรกรรมไทย/ภาพชาวบ้าน ชีวิตไทย
จิตรกรรมไทยแบบประเพณี/ภาพพุทธประวัติ,เทวดาและนางฟ้า
เฉาก๊วยและซาหริ่ม
ชอปเปอร์ลวดดัด
ชีสเค้กชนิดต่าง ๆ
ซาลาเปา 3 ไส้ (หมูแดง หมูสับ ถั่วดำ)
ซาลาเปาไส้ต่างๆ
ซุปต่างๆ (อาหารฝรั่ง)
ดรออิ้งคนเหมือนเบื้องต้น
ดรออิ้งทิวทัศน์เบื้องต้น
ดรออิ้งหุ่นนิ่งเบื้องต้น (การจัดองค์ประกอบศิลป์)
ดอกกล้วยไม้ใบยางเพื่อการส่งออก
ดอกไม้เทียน ช่อ และดอกไม้เทียนลอยน้ำกลิ่นหอม
ดอกไม้สดอบแห้ง
ดอกไม้สดอบแห้งเพื่ออาชีพ (ดอกไม้แก้ว)
ดอกไม้แห่งความรัก
ดิน-ปุ๋ย-น้ำ เพื่อการเกษตร
ตะกร้ารีไซเคิล
ตะกร้ารีไซเคิลประยุกต์ (พานรูปทรงดอกบัว)
ตีลัญจกร
ตุ๊กตาหรรษา
เต้าหู้สมุนไพร และแปรรูปกากถั่วเหลือง
แต่งตัวให้โอ่ง (ด้วยผ้าไทย) 1 "วิจิตรกุญชร"
แต่งตัวให้โอ่ง (ด้วยผ้าไทย) 2 "เรือนไทยวิจิตรศิลป์"
แต่งตัวให้โอ่ง (ด้วยผ้าไทย) 3 "โอ่งสวยลายศิลป์"
ทองหยิบ (ดอกเล็ก) ขนมโสมนัส
เทคนิคการดูแลสุขภาพด้านโภชนาการอาหาร การคำนวณแคลอรี่และเมนูอาหาร
เทคนิคการตรวจสอบและซ่อมคอมพิวเตอร์เบื้องต้นด้วย
เทคนิคการแต่งหน้าเค้กขั้นพื้นฐาน
เทคนิคการแต่งหน้าเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน
เทคนิคการทำแกงส้ม ตำรับโบราณ เพื่อการค้า
เทคนิคการทำน้ำยาไก่ น้ำเงี้ยว และน้ำพริกแบบโบราณพร้อมเครื่องเคียง
เทคนิคการทำเยลลี่แข็ง เยลลี่อ่อนและแยม
เทคนิคการทำแยมและมาร์มาเลตเชิงการค้า
เทคนิคการผลิตหมูทุบ และหมูฝอย
เทคนิคการเพาะถั่วงอกอนามัย
เทคนิคการย้อมลวดลายผ้า (สไตล์ญี่ปุ่น)
เทคนิคสีน้ำมัน
เทคโนโลยีการทำน้ำผักและผลไม้พร้อมดื่ม
เทคโนโลยีการแปรรูปผลไม้ดอง และผลไม้อบแห้งสามรส
เทคโนโลยีการแปรรูปผักและผลไม้แช่อิ่มแห้ง และการดอง
เทียนกลิ่นหอม
เทียนและเจลแฟนตาซี (กลิ่นหอม-ลอยน้ำ-ไร้ควัน-กันยุง)
เทียนหอมดนตรี (เพลงคริสต์มาส เพลงวันเกิด) - เทียนรูปผู้หญิงและเทียนสัตว์ต่างๆ
นกน้อยสำลีแฟนซีรีไซเคิล (เพื่ออาชีพ)
นมข้าวโพด และครองแครงกรอบ
น้ำพริก เจ เพื่อจำหน่าย
น้ำพริกเสวยปลาร้าสับทรงเครื่องสมุนไพรไทย,นพเก้า (สูตรครูปุ้ย)
บอนไซจำลองจากลวด
บัวลอยงาดำ น้ำขิง-บัวลอยมะพร้าวอ่อน
เบเกอรี่
ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหม "ดอกพุดจีน"
ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหม "ต้นดอกกล๊อกซีเนีย"
ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหม ชุด กล้วยไม้ไทย 1 "แคทลียา"
ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหม ชุด กล้วยไม้ไทย 2 "หวาย"
ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหม ชุด กล้วยไม้ไทย 3 "รองเท้านารี"
ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหมเพื่ออาชีพ 1 ดอกไม้จิ๋ว 3 แบบ (ชวนชม กล้วยไม้หวาย)
ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหมเพื่ออาชีพ 2 ไม้กระถางเล็ก (หน้าแมว,ไฮเดรนเยีย)
ประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าใยไหมเพื่ออาชีพ 3 ของชำร่วย (บุหงา-การะบูร)
ปอเปี๊ยะสด
ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด ขนมไทย
ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด ตู้เบเกอรี่
ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด ผลไม้
ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด ผักต่าง ๆ
ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด ผัดไทย หอยทอด
ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด อาหารภาคกลาง
ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด อาหารภาคใต้
ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด อาหารภาคเหนือ
ปั้นจำลองอาหารจิ๋วจากดินวรลักษณ์ ชุด อาหารภาคอีสาน
ปาท่องโก๋-สังขยา-น้ำนมถั่วเหลือง
เปเปอร์มาเช่ประยุกต์ (ทำตระกร้าใส่ผลไม้พร้อมแม่พิมพ์)
เปเปอร์มาเช่ประยุกต์ (ทำถาดปั้นเยื่อกระดาษติดนาฬิกา)
เปเปอร์มาเช่ประยุกต์ (ปั้นเยื่อกระดาษติดดินเผา กรอบรูปโบราณ)
เปเปอร์มาเช่ประยุกต์ (ออกแบบบรรจุภัณฑ์)
เปเปอร์มาเช่ประยุกต์ (อัดชิ้นงานนูนต่ำ)
ผลิตภัณฑ์พลาสติกหล่อ "เรซิ่น" เบื้องต้น (การทำแบบพิมพ์ด้านเดียวและ)
ผลิตภัณฑ์อาหารเส้น : บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและบะหมี่ญี่ปุ่น
พระรามลงสรง และขนมบัวลอยดอกอัญชัญ
พายและทาร์ตไส้ต่าง ๆ
เพ้นท์กระจกนาฬิกาและแก้วต่างๆ แบบประยุกต์
เพ้นท์ขวดน้ำหอมอัญมณี 7 สี (สไตล์เชกฯ)
เพ้นท์ไข่อัญมณี (จิวเวอรี่ บล็อค)
เพ้นท์ผ้าไหมไทย (สไตล์ยุโรป)
เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 1) ขั้นพื้นฐาน
เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 2) พวงแสด-นกและดอกแมกโนเลีย
เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 3) ผัก-ผลไม้นานาชนิด
เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 4) ได้เวลาของ ซานตาคลอส-วิวฤดูหนาว
เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 5) ปีจอ-ปีกุน
เพ้นท์ไม้ระบายสี (โฟล์คอาร์ต 6) โบตั๋นบนกระจกยาวเต็มตัว
เพ้นท์เสื้อยืด-ยีนส์ (สไตล์แฟชั่น)
ภาพแกะสลักไม้เขียนสี
ภาพทรายน้ำเพื่ออาชีพ
ระบบคุณภาพสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร
เรือนไทยไม้สักหลังเล็ก
เรือพื้นบ้านของไทย (เรือสัมปั้น)
ลวดคั่นหนังสือแฟนตาซี/พวงกุญแจจากลวด
ลูกหอมสมุนไพร
วาดภาพการ์ตูนไทยและการ์ตูนภาพล้อ
วาดภาพคนเหมือนด้วยสีชอล์ค (Pastel)
วาดภาพนกสวยงาม-ผลไม้ดอกไม้และสัตว์ (เทคนิคดินสอสีระบายน้ำ)
วาดภาพวิวและดอกไม้ด้วยสีชอล์ค (Pastel)
เวสป้าลวดดัด
ศิลปะการจัดพานรับน้ำสังข์
ศิลปะการจัดพานแหวนหมั้น
ศิลปะการพับธนบัตร 2 (ปลาเงิน-ปลาทอง , ปลาตะเพียนเงิน-ปลาตะเพียนทอง)
ศิลปะการพับธนบัตร 3 (ดอกบัวสายบุษบง ตูม,แย้ม,บาน ผีเสื้อ , แมงปอล้อลม)
ศิลปะการพับธนบัตรแบบใหม่1 (ดอกกุหลาบควีนใหญ่ 10-12 นิ้ว ชุดครุย ฯลฯ)
ศิลปะลายรดน้ำ/ลงรักปิดทอง
สเต๊ก (Steak) และหมูอบซอส
สบู่แฟนซี สบู่สมุนไพร
สลักกระจกลงดำปิดทอง
สลักชื่อบนหินอ่อนเบื้องต้น
สลักลายกระจกโต๊ะและแก้ว ชุด กาแฟด้วยครีม
สลัดต่างๆ
สามล้อไทยโบราณ และจักรยานจิ๋วจากลวด (พวงกุญแจ)
สีน้ำมันเบื้องต้น
หล่อกระปุกออมสินปูนปลาสเตอร์
หล่อตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ (ระบายสี)
หัตถกรรมเป่าแก้ว
หินทราย (ตุ๊กตาประดับสวนลอยตัว)
หุ่นยนต์ลวดดัด
อโรมาเธอราปี ขั้นประยุกต์
อโรมาเธอราปี ขั้นพื้นฐาน
อาหารกระป๋องเบื้องต้น
อาหารว่าง ช่อม่วง ปั้นสิบทอดไส้ไก่
อาหารว่าง หรุ่ม เต้าฮวยนมสด
ไอศกรีมและผลิตภัณฑ์

ตุ๊กตาไม้ โยโย่ ล้มลุก

“ตุ๊กตา” ยุคไหน ๆ ก็ยังเป็นของเล่นยอดนิยมของเด็ก ๆ ทั่วไป และก็ได้มีการคิดทำตุ๊กตารูปแบบใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกับตุ๊กตาแปลก ๆ แหวกแนว ด้วยรูปทรงรูปร่าง และสามารถเด้งดึ๋งดุ๊กดิ๊กไปมาได้ ซึ่งเรียกว่า “ตุ๊กตาไม้โยโย่-ตุ๊กตาล้มลุก” และทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลมานำเสนอให้พิจารณากัน…

ฉัตรธิดา เพียรดี เป็นเจ้าของผลงานตุ๊กตาไม้ “ฉัตร ดีไซน์” ดำเนิน ธุรกิจนี้มากว่า 2 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ฉัตรธิดาทำธุรกิจค้าไม้ ขายเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน แต่หลัง ๆ เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ธุรกิจที่ทำอยู่เริ่มจะไม่ราบรื่น จึงวางมือ และหันมาจับธุรกิจนำเข้า “ตุ๊กตาไม้” แทน ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าตุ๊กตาไม้นี้ไม่ใช่เป็นแค่ของเล่นอย่างเดียว ตกแต่งบ้านก็ได้ และราคาก็ไม่แพง มันแก้โจทย์ที่ว่าจะทำยังไงให้คนซื้อง่าย ๆ และซื้อเป็นของฝากได้


ตุ๊กตาไม้โยโย่ และตุ๊กตาล้มลุก ของฉัตรธิดานำเข้ามาจากประเทศจีน โดยออกแบบไปให้ทางจีนทำตามที่สั่ง ซึ่งจีนจะมีวัสดุ เครื่องไม้เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ค่าแรงก็ไม่แพงมาก ทำให้ต้นทุนในการผลิตไม่สูง ส่วนไม้ที่นำมาทำก็จะใช้ไม้สนของประเทศจีน ส่วนไม้สนของไทยจะแน่น มีน้ำหนักมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ใครอยากจะลองทำก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีอุปกรณ์ช่างไม้ โดยเฉพาะเครื่องกลึง และพอมีฝีมือในทางช่าง รวมไปถึงมีไม้ที่มีคุณสมบัติเบา เนื้อไม้ไม่แน่นมาก ก็สามารถทำได้


วัสดุ ในการทำ “ตุ๊กตาไม้ล้มลุก” หลัก ๆ ประกอบด้วย

ไม้สนที่กลึงเป็นรูปทรงแล้ว
เส้นเอ็น (ที่ใช้ในการตกปลา)
สปริง
ด้ายสี
ไหมพรมสีต่าง ๆ
สีสำหรับเพนท์
แล็คเกอร์สำหรับเคลือบ
วิธีทำตุ๊กตาล้มลุก เริ่มจาก ร้อย รูปทรงไม้ที่ต้องการให้เป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ โดยร้อยเข้าไปในเส้นเอ็นให้เข้ารูป, นำเอ็นที่ร้อยเป็นรูปสัตว์มาเชื่อมกับฐานที่วางตัวสัตว์โดยผูกกับสปริงข้าง ใน ฐานด้านล่าง, ลงสีเพนท์ ตกแต่ง ให้สวยงามตามใจชอบ, เคลือบด้วยแล็คเกอร์อีกครั้ง แล้วตกแต่งด้วยไหมพรมและด้ายสีเพื่อความสวยงาม

วัสดุในการทำ “ตุ๊กตาไม้โยโย่” หลัก ๆ ประกอบด้วย

ไม้สนที่กลึงเป็นรูปทรงแล้ว
เชือกป่าน เชือกผ้า เชือกถัก
ใบพัดตกแต่ง
กาว
ลวดสปริง
สีสำหรับเพนท์
แล็คเกอร์สำหรับเคลือบ
วิธีทำตุ๊กตาไม้โยโย่ เริ่มจาก นำท่อนไม้สนมากลึงให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ (ทรงกลม ทรงรี ทรงเหลี่ยม), ไม้สนที่กลึงได้นั้นจะเป็นชิ้นส่วนของหัว ลำตัว มือ รองเท้า, เจาะรูที่ลำตัวสองด้าน ๆ ละ 2 รู เพื่ออัดกาว สอดเชือก ทำเป็นแขนและขา, นำชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบโดยทากาวเข้ารูปร่าง, เพนท์สีตามต้องการ, ทาแล็คเกอร์ทับเพื่อความเงางาม, เจาะรูที่หัวเพื่อร้อยสปริงให้ยืดหยุ่น และแขวนได้

ฉัตรธิดาอธิบายเพิ่มเติมว่า วิธีทำเริ่มจากการกลึงไม้ให้เป็นรูปทรงกลม ทรงรี แล้วนำชิ้นส่วนมาต่อกัน จากนั้นจะเจาะรูเพื่อสอดเชือกให้ดูเป็น แขนขา ซึ่งที่มีวัสดุเชือกเพิ่มขึ้นมาก็เพราะทำให้ตุ๊กตาดูอ่อนช้อยมากขึ้น ดูมีชีวิตชีวาขึ้น และมีสปริงแขวนให้ดูยืดหยุ่น โดยชิ้นส่วนต่อตัวหนึ่งก็จะมีไม้กลึง 3-5 ชิ้น คือส่วนเท้า มือ หัว ตัว คอ และเจาะรูทำสลักในการเชื่อมต่อกัน แล้วใช้กาวติด

“เราจะเน้น หนักไปที่เรื่องของการเพนท์ การลงสี สีนั้นจะใช้เป็นสีน้ำทาไม้ธรรมดาทั่วไป อุปกรณ์ก็จะหาได้ง่ายไม่ยุ่งยาก แต่จะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ”



สำหรับ “ตุ๊กตาโยโย่” นั้น เป็นแบบใหม่ ทำขายเพราะสามารถสร้าง รอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้เมื่อใครต่อใครพบเห็น ดูตลก น่ารักดี มันดูอิสระ เหมือนปลดปล่อย

ส่วน “ตุ๊กตาล้มลุก” จะมีเอ็นที่ใช้ตกปลา มาร้อยเป็นรูปร่างได้ และมีสปริงติดอยู่ที่ฐานข้างใต้ พอกดแล้วตุ๊กตามันก็จะล้มลง พอปล่อยสปริงด้านล่างก็จะยืดตรงตั้งขึ้นเหมือนเดิม

ตุ๊กตาไม้ล้มลุก และตุ๊กตาไม้โยโย่ มีประโยชน์ใช้สอยมากกว่าแค่ของเล่น ราคาก็ไม่แพงมาก เหมาะที่จะเป็นของฝาก ของขวัญ ของที่ระลึก ในเทศกาล หรือให้ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ

ทุนเบื้องต้นในการทำขาย ก็ตั้งแต่ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดกิจการ ขณะที่ราคาขายอยู่ที่ตัวละ 40 บาทขึ้นไป โดย 40 บาทเป็นราคาขายส่ง ต้นทุนวัสดุจะตกประมาณ 70% ของราคา

ใคร สนใจจะติดต่อ ฉัตรธิดา เพียรดี ก็ติดต่อได้ที่ 72/72 หมู่ 1 หมู่บ้านมณีรินทร์ ถนน 345 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี 10200 โทร. 08-6704-3335 ส่วนใครที่พิจารณาจากข้อมูลนี้แล้วได้ไอเดีย อยากจะลองทำตุ๊กตาไม้แปลก ๆ ขายบ้าง ก่อนอื่นก็คงต้องฝึกฝนฝีมือให้ดีเสียก่อน.

ขอขอบคุณข้อมูล จาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ป้ายเรซิน

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่หลายต่อหลายคนผันตัวมาทำธุรกิจส่วนตัวกันมาก บางคนที่ทุนหนาก็อาจจะลงทุนทำธุรกิจขนาดใหญ่สักหน่อย แต่ถ้าพอมีทุนอยู่บ้าง อาจเริ่มต้นด้วยการทำธุรกิจเล็กๆ ซึ่งถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี ก็สามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวได้ไม่ยากอะไร

เหมือนดังเช่นที่คุณเติ้ล…บรรณวัฒน์ สิริวิกรพัฒน์ คนรุ่นใหม่ที่มีใจรักด้านศิลปะหันมาลงทุนทำธุรกิจป้ายเรซิ่น ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า รู้สึกมีความสุขดี

“เริ่ม ทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่ 3 ปีก่อน นี่ก็ย่างเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว ด้วยความที่เราคิดว่าน่าจะมีวัสดุที่ใช้แทนไม้ได้ ซึ่งเรซิ่นนั้นจะว่าไปแล้วถือว่าทนทานกว่าไม้ การหล่อแบบเป็นตัวอักษร ลวดลาย ตุ๊กตา ดอกไม้ และอะไรอื่นๆ ก็หล่อจากต้นแบบปูนพลาสเตอร์ สำหรับในส่วนของตัวป้ายยังคงใช้เป็นป้ายไม้ เหมือนป้ายทั่วไป ต่างกันตรงที่ตัวอักษร และลวดลายที่นำมาติดจะใช้เป็นตัวหล่อเรซิ่นแทนไม้”


ด้วย หลักทำงานด้วยใจรัก ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องได้รายได้มากๆ แต่อาศัยความพอเพียง ขายของด้วยราคามิตรภาพ เป็นกันเอง และสินค้าก็มีคุณภาพดี สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ดำเนินธุรกิจอยู่ได้อย่างสบายๆ



“ลูกค้า ของเรา มีทั้งคนที่มาสั่งทำป้ายตกแต่งด้วยตัวอักษรเรซิ่น แต่บางคนอาจไม่ได้ซื้อป้าย แต่ซื้อตัวเรซิ่นเพื่อนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นๆ เพราะบางคนอาจนำตัวเรซิ่นที่หล่อเป็นตัวอักษร หรือ ลวดลายต่างๆ ไปใช้ประกอบการตกแต่ง ทำงานฝีมือได้หลากหลายรูปแบบ ราคามีตั้งแต่ 10 บาท ไปจนถึง 40 บาท ซึ่ง ตรงนี้เรายินดีให้ลูกค้ามาเลือกหาเลือกซื้อ ตำหนิติชมได้ และไม่จำเป็นว่าจะต้องสั่งทำป้ายเพียงอย่างเดียว แต่ถ้ามาสั่งทำป้ายก็จะคิดราคาจากจำนวนตัวเรซิ่นที่ใช้ รวมกับค่าป้ายไม้ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ”

โดย ปกติแล้วคุณเติ้ลจะไปเปิดหน้าร้านอยู่ที่เมืองทองธานี ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ในเวลาที่มีการจัดงานนิทรรศการต่างๆ ซึ่งลูกค้าประจำจะรู้และตามไปอุดหนุนกัน โดยจะรู้จักกันในชื่อร้าน แฟชั่น โฮมเรซิ่น อาร์ท

นับ เป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่ทำงานด้วยหัวใจ มีความเป็นมิตรกับลูกค้า ทั้งยังใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดความสุขในการทำงาน และสามารถยืนหยัดอยู่ได้ใน ภาวะเศรษฐกิจดังเช่นทุกวันนี้

เรื่อง/ภาพ Ms.รอบรู้

ตัวหนีบการ์ตูน

อาชีพงานฝีมือ งานประดิษฐ์ งานแฮนด์เมด นับวันจะมีการแข่งขันกันในตลาดที่สูง ซึ่งยิ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคู่แข่งในตลาดมาก ก็ยิ่งทำให้เจ้าของงานจำเป็นต้อง “หาเอกลักษณ์” ให้กับสินค้าของตนให้เด่นชัดที่สุด จึงจะไม่มีปัญหา เหมือนกับงาน “ตัวหนีบไม้” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” นำเสนอในวันนี้ ที่มีการออกแบบติด “ลายการ์ตูน” น่ารักคิกขุ ใส่สีสันสดใสสวยงามมีแบบฉบับของตัวเอง ก็เป็นจุดขายให้กับสินค้าได้

นัยน์ปพร โอสถานนท์ ผู้สร้างสรรค์ออกแบบงานบนแผ่นไม้ ออกมาเป็นลวดลายการ์ตูนที่สวยงาม มีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มานานกว่า 7 ปี ภายใต้ชื่อ “มาร์ยเวิร์ค รันย์เวย์” และเป็นเจ้าของผลงาน “ตัวหนีบไม้ลายการ์ตูน” ที่จะมาเผยวิธีการทำกัน…

หลัง จากที่เรียนจบมาทางด้านศิลปะ นัยน์ปพรก็ได้เข้าทำงานอาร์ตที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำงานอยู่ได้ประมาณ 3 ปีก็ต้องเจอกับช่วงเศรฐกิจตกยุคฟองสบู่แตก บวกกับเบื่อที่จะทำงานบริษัทและต้องการที่จะออกมาสร้างสรรค์งานตามแบบของตัว เอง จึงตัดสินใจออกจากงานประจำมาทำงานที่ตัวเองชอบ


“ใน ช่วงแรกที่ออกมาทำงานของตัวเองกับแฟนนั้นจะทำเป็นพวกงานเปเปอร์มาร์เช่ ทำอยู่ได้ระยะหนึ่งก็เริ่มที่จะมองหางานตัวอื่นเข้ามาทำเสริมไปด้วย เพราะมองดูแล้วว่าถ้าทำแต่งานเปเปอร์มาร์เช่อย่างเดียวมันเริ่มตัน จนมาเริ่มทำงานไม้ เพราะดูแล้วว่างานไม้เป็นงานที่ทน ใช้งานได้นาน ลูกค้าจะชอบ”

การขายสินค้าในระยะแรกที่ผลิตงานออกมา จะนำไปวางแผงขายแบบแบกะดิน ขายตามตลาดนัด นอกจากนั้นยังนำไปเสนอขายตามร้านขายงานกิ๊ฟช็อปที่สวนจตุจักรด้วย

“ที่ ต้องขายแบบนี้ในช่วงแรกก็เพราะต้องการที่จะลองเปิดตลาด หาลูกค้า หลังจากที่พอจะมีลูกค้าสั่งงานพอสมควร ก็ย้ายที่ผลิตมาอยู่ที่ จ.นครปฐม เพราะว่าค่าเช่าที่ ค่าใช้จ่ายไม่สูง”

“สำหรับคนที่ไม่มีความ รู้ด้านศิลปะ ก็สามารถที่จะฝึกทำงานประดิษฐ์จากไม้ตัวนี้ได้ไม่ยาก เรียนรู้เพียง 1 เดือนก็สามารถทำงานออกขายได้แล้ว เพราะการทำงานชิ้นนี้อยู่ที่ความเชี่ยวชาญจากการฝึกฝน” เจ้าของงานกล่าว



สำหรับ วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำ ประกอบด้วย เครื่องฉลุไฟฟ้า, เครื่องขัดสายพาน, ไม้เฟอร์นิเจอร์ (MDF), สีอะคลีลิก , กรวยใส่สีทำจากพลาสติกห่อปก, ยูริเทรน, กาวร้อนติดไม้, ตัวหนีบไม้

“เครื่อง ฉลุไฟฟ้านั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 บาท หาซื้อได้ย่านคลองถม แต่ก็สามารถใช้เลื่อยฉลุมือก็ได้ถ้ายังไม่มีทุน ส่วนไม้ที่ต้องใช้ไม้ MDF ก็เพราะว่าเนื้อไม้จะเนียนละเอียดแน่น เวลาทำชิ้นงานจะสวย การเลือกดูไม้ที่เนื้อแน่นดูจากลายไม้จะไม่กระจายออกจากกันมาก และไม้ที่ใช้ก็จะใช้ความหนาตั้งแต่ 3-9 มม. ถ้าเป็นงานชิ้นเล็กอย่างตัวหนีบ ก็ใช้ขนาด 3 มม. แหล่งซื้อไม้ก็อยู่ที่ย่านบางโพหรือภูเขาทอง”

ตัวหนีบไม้ ซื้อแบบที่ขายสำเร็จรูปแล้วที่สวนจตุจักร ราคาอยู่ที่ประมาณ 50 ตัว 100 บาท…

สี อะคลีลิกที่ใช้ ควรใช้อย่างดีเพราะสีจะสดสวยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน การซื้อสีก็ซื้อเฉพาะแม่สีแล้วนำมาผสมให้ได้สีที่ต้องการได้ ส่วนการที่ต้องใช้กรวยใส่สี ก็เพราะว่าสามารถลากลายเส้นที่เล็กดี เหมาะสำหรับทำงานชิ้นเล็ก การทำกรวยจะใช้แผ่นพลาสติกสำหรับห่อปกหนังสือมาทำการม้วนให้เป็นรูปกรวย ให้ปลายนั้นแน่นสนิท ไม่มีรู จากนั้นก็ใส่สีลงไป ปิดก้นกรวยให้เรียบร้อย ใช้คัตเตอร์ตัดที่ปลายออกให้เกิดรูเล็ก ๆ เท่านี้ก็ได้กรวยที่ใส่สีแล้ว

ขั้นตอนการทำ เริ่ม จากการออกแบบรูปตัวการ์ตูนที่ต้องการ วาดแบบลงบนแผ่นไม้ จากนั้นก็นำไปเลื่อยฉลุตามแบบที่วาดไว้ โดยจะใช้เลื่อยฉลุมือหรือเครื่องฉลุไฟฟ้าก็ได้

เมื่อ ได้แบบตามที่ต้องการก็นำไปพ่นสีพื้นด้วยสีน้ำอะคลีลิก ปล่อยทิ้งไว้ให้สีแห้งสนิท ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ไม่ควรนำไปตากแดด หรือผึ่งพัดลม เพราะจะทำให้สีพื้นแตก ไม่สวยงาม หลังจากที่สีพื้นแห้งสนิทดีแล้วก็สามารถนำมาลงสีตกแต่งลวดลายหน้าตาของ การ์ตูนต่าง ๆ ตามที่ต้องการได้ทันที

หลัง จากที่ตกแต่งลายละเอียดเรียบร้อยก็ทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นก็ทำการพ่นเคลือบด้วยยูริเทรน นำไปผึ่งแดดประมาณ 5 นาที ไม่ควรผึ่งนานกว่านี้เพราะจะทำให้ยูริเทรนไม่แห้งสนิท เมื่อแห้งดีแล้วก็นำไปขัดพื้นหลังให้เรียบด้วยเครื่องขัดสายพาน จากนั้นถึงจะนำไปติดลงบนตัวหนีบที่เพ้นท์สีเตรียมไว้แล้ว ติดด้วยกาวร้อน รอให้กาวแห้งก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน

“ตัวหนีบไม้ลายการ์ตูน” ของ นัยน์ปพรนั้นมีอยู่ประมาณ 25 แบบ ขายส่งตั้งแต่ 100 ตัวขึ้นไป ในราคาตัวละ 10 บาท และนอกจากตัวหนีบแล้วยังผลิตสินค้าอื่น ๆ ที่เป็นงานไม้ได้อีกมากมาย อาทิ ตัวแขวนรูปสัตว์ต่าง ๆ เก้าอี้เพ้นท์ลายน่ารัก ป้านติดรั้ว และที่แขวนพวงกุญแจ เป็นต้น

ใคร สนใจสินค้างานไม้น่ารัก ๆ ของนัยน์ปพร เข้าไปดูตัวอย่างงานได้ที่ http://www.mw-runway.com/ ซึ่งสามารถสั่งออร์เดอร์รูปแบบตามต้องการเพื่อนำไปจำหน่ายต่อได้ !!

อาชีพเสริมจ้า

ยินดีต้อนรับสู่แหล่งอาชีพเสริม